รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมกำหนดผู้รับผิดชอบในการเตรียมข้อมูลเพื่อส่งต่ให้ผู้เกี่ยวข้อง

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง:

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม:

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเพื่อนำไปออกแบบระบการนำเสนอ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง:

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม:

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-ประชุมเพื่อกำหนดขอบเขตรูปแบบการเปิดหลักสูตรระยะสั้นในปีงบประมาณ พ.ศ 2565 โดยนำข้อมูลในการเปิดหลักสูตรที่ผ่านมาเพื่อพิจารณาเปิดหลักสูตร ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้รับบริการ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม นายสถิตย์ เจ็กมา นายณรงค์ศักดิ์ ราวะรินทร์ นางเพ็ญประภา ไชยสงคราม และนางสาวสุพิน ไตรแก้วเจริญ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมติดตามโครงการจากผู้ที่ได้รับมอบหมาย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ขออนุมัติโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 6000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดเตรียมสถานที่ หอพระกันทรวิชัย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 70

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนินกิจกรรมวันสถาปนา

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 6000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 6000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1. จัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณและโครงการฯจากผู้บริหารหน่วยงาน
2. จัดทำหนังสือบันทึกข้อความขออนุมัติจัดโครงการ
3. ประสานงานวิทยากร โดยได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรจากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
4. จัดทำหนังสือบันทึกข้อความขอเชิญวิทยากร

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

วันที่ 16 ตุลาคม 2564 มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ การค้นหาอัตลักษณ์ สร้างตราสินค้า และขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์ผ้าทอมหาสารคาม โดยเชิญตัวแทนกลุ่มทอผ้า จำนวน 21 กลุ่ม มีกิจกรรมดังนี้
1. อัตลักษณ์ สร้างแบรนด์ และขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
2. การอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการตลาด และสื่อออนไลน์ ให้แก่ตัวแทนกลุ่มนำร่อง 6 กลุ่ม
วันที่ 17 ตุลาคม 2564
- มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการตลาด และสื่อออนไลน์ ให้แก่ตัวแทนกลุ่มนำร่อง 6 กลุ่ม
- คณะทำงานได้ลงพื้นที่ ศึกาาข้อมูล ณ กลุ่มเย็บผ้าบ้านท่าตูม ตำบลท่าตูม อำเภอเมืองฯ และ กลุ่มทอผ้าบ้านหนองบัว ตำบลหนองกุง อำเภอแกดำ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 70000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 รศ.ดร.น้ำฝน และทีมนักวิจัย ได้ลงพื้นที่กลุ่มทอผ้าหนองโนรุ่งเรือง และกลุ่มโฮงหูกไหมแสนคำ ส่วนทีมถ่ายภาพ ได้ถ่ายภาพผลิตภัณฑ์ของกลุ่มทอผ้า 21 กลุ่ม ณ ห้องโถง สถาบันฯ
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดการสินค้าเพื่อสร้างช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออนไลน์ (Shopee, Lazada) ให้กับตัวแทนกลุ่มทอผ้า 6 กลุ่มนำร่อง ณ ห้องโถง สถาบันฯ เป็นการอบรมการถ่ายภาพสินค้า การนำเสนอข้อมูลของสินค้าเพื่อการจำหน่ายทางออนไลน์ (Shopee, Lazada) ทีมนักวิจัย ได้ลงพื้นที่ บ้านหนองบัว บ้านโคกเครือ บ้านท่าตูม
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ทีมนักวิจัย ได้ลงพื้นที่ บ้านหนองสิมใหม่

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 23000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง “หมออีสาน” (ISAN Doctor) (1-30 พ.ย. 64)
“หมอยา หมอเป่า หมอนวด หมอพราหมณ์ หมอธรรม หมอสูตร หมอขวัญ หมอดูหมอลำ หมอแคน”
2. ลงพื้นที่เก็บข้อมูล (1-30 พ.ย. 64)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 6000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1. จัดทำหนังสือขออนุมัติโครงการและงบประมาณเสนอผู้อำนวยการอนุมัติ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1. เขียนข้อเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณและโครงการในการดำเนินงาน
2. ประสานงานสถานที่ในการศึกษาดูงานและจัดกิจกรรม
3. ประสานงานการเข้าร่วมโครงการฯ กับบุคลากรในหน่วยงาน
4. ประสานงานโครงการด้านอื่นๆภายใต้การดำเนินโครงการฯ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.ประชุมหารือการดำเนินงานกับคณะทำงาน
2.จัดเตรียมเอกสารประชาสัมพันธ์โครงการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3.เขียนร่างแผนการจัดกิจกรรม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 15

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 40000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การดำเนินงานอยู่ในขั้นตอนการวางแผนงาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การดำเนินกิจกรรมอยู่ในขั้นตอนการลงพื้นที่เก็บข้อมูล ทั้ง 13 หมู่บ้าน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 48000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนินการเก็บข้อมูลประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ของดีของชุมชนในตำบลขามเฒ่าพัฒนาทั้งหมด 11 หมู่บ้านแบ่งออกเป็นทีมดังนี้
ทีม A
1.ขามเฒ่า
2.ดอนเปลือย
3.ปอแดง
4.วังบัว
ทีม B
1.เปลือยดง
2.โนนเขวา
3.ยาง
4.น้ำใส
5.เปลือยทอง
6.หนองมะแปบ
7.โนนข่าพัฒนา

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 40

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 46720

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

อยู่ระหว่างการรวบรวมรายงานรูปเล่มฉบับสมบูรณ์เพื่อจัดส่งวให้ทางกรมการแพทย์แผนไทย
ข้อมูลรายงานอยู่ในไดร์
https://drive.google.com/drive/folders/1PdbK2l344eDRz5x5RmbprsRa_fHwuN3d?fbclid=IwAR3iFcSZEb2VJTAd-pBnmDPtb4mv348v8yUflVeUF1TL2RMc-5bGkMzGeTw

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 60

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ยังไม่ดำเนินการครับ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

อยู่ระหว่างการคัดแยกศพท์เพื่อใช้วิเคราะห์ประเด็นวิจัย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 60

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 20000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1. จัดทำสัญญาการรับทุนอุดหนุนการดำเนินงานกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
2. จัดทำรายงานการวิจัย บทที่ 1 และบทที่ 2

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 20000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 190000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 เวลา 13.30 น. ประชุมหารือการดำเนินโครงกับคณะกรรมการดำเนินงาน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการกองกลาง/งานพิธีการและกิจการพิเศษ มมส. และบุคลากรฝ่ายบริการวิชาการและทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม มติที่ประชุม วันจัดโครงการ กำหนดเป็นวันที่ 29 เมษายน 2565 ประกอบด้วยกิจกรรมการสักการะบูชา กิจกรรมเวทีเสวนา กิจกรรมนิทรรศการและการเช่าบูชาพระพุทธกันทรวิชัยฯ รุ่นปี 2545 และการจัดแสดงโชว์พระกันทร รุ่นต่าง จากนักสะสม ตลอดจนการจัดทำวีดิทัศน์พระพุทธกันทรวิชัย อภิสมัยธรรมนายก ทั้งนี้ได้พิจารณาการจัดทำร่างกรรมหนดการ เพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะ หน่วยงาน อีกครั้งในวันที่ 1 เมษายน 2565 (ผ่านระบบออนไลน์) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 3 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 50000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

โดยเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น – ๑๒.๐๐ น มีการเสวนาวิชาการ เรื่อง “ประเพณีบุญผะเหวด ฮีตเก่าวิถีใหม่” ผู้รวมเสวนาได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.ปฐม หงษ์สุวรรณ อาจารย์วิวัฒน์ วอทอง โดยมี อาจารย์ทม เกตุวงศา เป็นผู้ดำเนินรายการ และในเวลา๑๕.๐๐ น. ได้อัญเชิญพระอุปคุต และแห่ผะเหวดเข้าเมือง มายังพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน จากนั้นมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเทศน์มาลัยหมื่น-มาลัยแสน

และในวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๕ ในช่วงเช้าเวลา ๐๕.๐๐ น. มีการตักบาตรข้าวพันก้อน จากนั้นมีพิธีเทศน์สังกาสและเทศน์คาถาพันบาลี และในเวลา ๐๘.๐๐ น. มีการถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ และในเวลา ๑๒.๐๐ น.เริ่มกิจกรรมเทศน์มหาชาติ โดยการเทศน์แหล่อีสานประยุกต์ 3 ธรรมมาสน์ “13 กัณฑ์ 1,000 พระคาถา” ในระหว่างเทศน์จะมีหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยได้แห่กัณฑ์หลอนเพื่อมาถวาย และมีวงกลองยาวคณะศิลป์อีสานนำขบวน โดยมียอดกัณฑ์หลอนรวมทั้งสิ้น ๑๗๘,๙๗๓.๗๕ บาท

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 90

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 100000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

อยู่ระหว่างดำเนินการ อยู่ระหว่างการปรับแผนการดำเนินงาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 60000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

หมู่บ้านท่องเที่ยวต้นแบบเกษตรปลอดภัยครบวงจร เป็นโครงการหมู่บ้านแม่ข่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยได้รับเงินอุดหนุนจากสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อการดำเนินการส่งเสริมการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและเศรษฐกิจชุมชน เพื่อยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (เป็นปีที่ 2)
การจัดกิจกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยี ภายใต้โครงการ“หมู่บ้านท่องเที่ยวต้นแบบเกษตรปลอดภัยครบวงจร” โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนเป้าหมายในพื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย ได้แก่ 1) บ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง 2) บ้านเหล่าโพธิ์ ตำบลหนองกุงสวรรค์ 3) บ้านหนองแคน ตำบลเหล่า 4) บ้านดอนตูม ตำบลเหล่า 5) บ้านยางสินไชย ตำบลเหล่า และมีหมู่บ้านแสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม ได้แก่ บ้านหัวขัว ตำบลแก้งแก บ้านยางใหญ่ ตำบลยางน้อย และบ้านแห่เหนือ ตำบลหนองบอน ปรากฏผลการประเมินผลความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยี พบว่า สถานภาพผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศหญิงมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 80 มีอายุอยู่ระหว่าง 51 ปีขึ้นไปมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 44.29 การศึกษาในระดับประถมศึกษา มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 65.71 และมีรายได้ต่อเดือนระหว่าง 10,001 – 15,000 บาท มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 37.14 ตามลำดับ ส่วนผลการประเมินร้อยละของความพึงพอใจต่อการเข้ารับการถ่ายทอดเทคโนโลยี พิจารณาเป็นรายข้อ 3 อันดับแรก พบว่า อันดับแรก ผลการประเมินร้อยละความพึงพอใจต่อการเข้ารับการถ่ายทอดเทคโนโลยี พิจารณา เป็นรายข้อ 3 อันดับแรก พบว่า สามารถนำความรู้จากการเข้าร่วมการถ่ายทอดฯ ไปใช้ประโยชน์มากที่สุด ร้อยละ 100 รองลงมามีความพึงพอใจร้อยละ 98.5 มีการอำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมการถ่ายทอดฯ และมีความพึงพอใจร้อยละ 98 ได้เข้าร่วมฯ หรือได้รับบริการที่เป็นประโยชน์ และสำหรับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อการจัดกิจกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยี พบว่า 1. ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวหมู่บ้านต้นแบบได้อย่างยั่งยืน 2. ควรมีกิจกรรมโครงการในลักษณะนี้ เพื่อเป็นการร่วมกันพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งต่อเนื่อง อีกทั้งชุมชนได้นำความรู้ที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง 3. เกิดนวัตกรรมให้กับชุมชนที่เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับการท่องเที่ยว 4. เป็นการขยายผลสู่ชุมชนใกล้เคียง ที่มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของชุมชน และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่มมากขึ้น 5. ต้องการให้มีการสร้างวิทยากรชุมชนในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม
มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้วย วทน. และร่วมจัดเวทีฯ ดังนี้
1. วันที่ 4-5 กันยายน 2564 ได้มีการลงพื้นที่ร่วมกับทีมคณะอาจารย์จากสาขาประมง คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประกอบด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิภาวี ไทเมืองพล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ร่วมฤดีพานจันทร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภัททิรา เกษมศิริ คุณเอกลักษณ์ ยศสกุล และนิสิตที่เรียนในสาขาประมง เพื่อทำการศึกษา สำรวจความหลากหลายของชนิดพรรณปลาในบึงกุย อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ของโครงการฯ โดยได้มีการรวบรวมและจัดทำเป็นฐานข้อมูลพรรณปลาเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ แลกเปลี่ยน และแบ่งปันประสบการณ์ในการทำประมงพื้นบ้านที่เกิดการอนุรักษ์ ให้แก่ต่อชุมชนเป้าหมายเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ณ ศูนย์เรียนรู้ ไร่แสนดีเกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
2. วันที่ 17 กันยายน 2564 เวลา 15:00-17:30 น. ได้รับเชิญเป็นวิทยากรในรายการ “วิถีวิทย์...พิชิตชุมชน” ร่วมกับกลุ่มเกษตรกรในชุมชน ซึ่งเป็นการมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยน เล่าความสำเร็จของการยกระดับหมู่บ้านด้วยการนำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้กับคนในชุมชน ให้ได้รับประโยชน์ตามเป้าหมายของรัฐบาล ของประเทศ ที่ต้องการเห็นชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้และมีความเข้มแข็งยั่งยืน
“หมู่บ้านท่องเที่ยวต้นแบบเกษตรปลอดภัยครบวงจร” เป็นการดำเนินโครงการ สู่ปีที่ 2 ที่ได้พยายามนำเอาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ ไปพัฒนาชุมชนและผู้ประกอบการในชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งได้เผยแพร่สตรีมแบบสด ผ่านช่องทางออนไลน์ https://www.youtube.com/watch?v=U91QOq-sEpk โดยมี นายเอกพงศ์ มุสิกะเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) เป็นผู้ดำเนินรายการ
3. วันที่ 3 กรกฎาคม 2564 ลงพื้นที่ร่วมกันจัดเวทีสนทนากลุ่มในโครงการฯ ณ ไร่แสนดี เกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ ทบทวนผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา และวางแผนการดำเนินกิจกรรมโครงการ ปีที่ 2
การจัดเวทีสนทนากลุ่มครั้งนี้มีนายบรรจง แสนยะมูล ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้านที่เข้มแข็งในการเป็นต้นแบบของการบริหารจัดการที่ดี ที่ทำให้กลุ่มเกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้เพิ่มขึ้นจากผลผลิตปลอดภัย มีนักท่องเที่ยว ตลอดจนผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตของคนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสามารถขยายผลสู่หมู่บ้านใกล้เคียงได้อีกหมู่บ้าน
4.วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ แลกเปลี่ยน และแบ่งปันประสบการณ์กับกลุ่มบ้านหนองแคน ตำบลเหล่า อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม โดยมีวิทยากรคือ นายชลิตรัฐ สุรฤทธิพงศ์ และนายอัมรินทร์ แดงน้อย จากอำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้เครื่องมือในกระบวนการทอผ้า การออกแบบลวดลายและเทคนิคการมัดหมี่ การพัฒนาเส้นใยธรรมชาติด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ บ้านหนองแคนมีสมาชิกกลุ่มทอผ้าที่มีความเข้มแข็ง แต่ประสบปัญหาด้านอุปกรณ์ในขั้นตอนการปั่นหลอดด้ายแบบใช้กงล้อ ที่ต้องใช้เวลาและกำลังคนค่อนข้างมากในการปั่น ชุมชนจึงมีความต้องการหาเทคนิควิธีการนำเครื่องมือเข้ามาช่วยในกระบวนการปั่นหลอดด้ายให้ได้มาตรฐานและรวดเร็วขึ้น ซึ่งมอเตอร์ปั่นหลอดด้ายที่นำมาถ่ายทอดองค์ความรู้ในครั้งนี้ สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานให้แก่กลุ่มสมาชิกได้ โดยประหยัดทั้งเวลาและทุ่นแรง สามารถที่จะนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนให้รวดเร็วและได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเครื่องปั่นหลอดด้ายยังสามารถใช้สำหรับค้นด้ายมัดหมี่ได้อีกด้วย ถือเป็นการต่อยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับสมาชิกกลุ่มทอผ้าได้เป็นอย่างดี ประกอบกับเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ผ้าทอที่เป็นของฝากของที่ระลึกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมในหมู่บ้านหนองแคน ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ของโครงการฯ
5.วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 จัดกิจกรรมอบรม แลกเปลี่ยน แบ่งปันประสบการณ์ ณ ศูนย์เรียนรู้ ไร่แสนดีเกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ การสร้างมูลค่าผลผลิต ทางการเกษตรกับเทรนท่องเที่ยวยุคหลังโควิด-19” “ทำอย่างไรที่จะผลิตผลผลิตปลอดสารอาหารปลอดภัยในเส้นทางท่องเที่ยวให้ยั่งยืน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19” และ “การทำประมงพื้นบ้านเพื่อการอนุรักษ์” เพื่อให้เป็นแหล่งมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชน โดยทีมนักวิจัยผู้รับผิดชอบโครงการ และทีมวิทยากรที่เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้วันดังกล่าวยังมีพิธีมอบฐานข้อมูลพรรณปลาที่พบในบึงกุย อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นการศึกษาและสำรวจโดยความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน และคณาจารย์จากสาขาวิชาประมง คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชุมชนได้ใช้เป็นฐานข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจได้ศึกษาค้นคว้า
6.การสร้างแพลตฟอร์มเพื่อการท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของชุมชนผ่านสื่อออนไลน์โดยความร่วมมือจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชุมศักดิ์ สีบุญเรือง และอาจารย์ จตุภูมิ จวนชัยภูมิ จากคณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
การดำเนินกิจกรรมโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้กลุ่มเกษตรกรสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวสู่เส้นทางท่องเที่ยวเกษตรปลอดภัย รวมทั้งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาให้เป็นจุดแลนด์มาร์คที่สำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอโกสุมพิสัยและจังหวัดมหาสารคาม ที่จะสามารถดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสความเป็นธรรมชาติกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนอย่างยั่งยืน และประการสำคัญเป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มเกษตรกรในหมู่บ้านท่องเที่ยวแห่งนี้ คือ การได้นำผลผลิตเกษตรอินทรีย์ทูลเกล้าถวายแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสที่พระองค์เสด็จพระราชทานปริญญาบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และผู้ติดตามพระองค์ท่านได้สนใจเลือกผลผลิตของกลุ่มเกษตรกรอีกด้วย
อนึ่ง ในส่วนของการสรุปผลการดำเนินงานโครงการ ผู้รับผิดชอบ ได้ดำเนินการจัดส่งไปยังคลินิกเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งเป็นผู้ประสานงานของ สป.อว เรียบร้อยแล้ว

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 187550

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

โครงการการบริหารการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพจังหวัดมหาสารคามเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ ได้รับงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้วยการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ตามสัญญาเลขที่ C10F640157 โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชูพักตร์ สุทธิสา เป็นผู้รับผิดชอบแผนงานวิจัย ดังนี้
วัตถุประสงค์
1. เพื่อบูรณาการการท่องเที่ยวสร้างเครือข่าย และกลไกการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ
เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ จังหวัดมหาสารคาม
2. เพื่อสังเคราะห์ความรู้ในการสร้างต้นแบบการท่องเที่ยโดยชุมชนเชิงสุขภาพ
ทีมวิจัยประกอบด้วย
-คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
-คณะการบัญชีและการจัดการ
-คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
-คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์
-คณะเภสัชศาสตร์
-คณะแพทยศาสตร์
-คณะพยาบาลศาสตร์
-สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
-สถาบันวิจัยวรัยรุกเวช
พื้นที่ร่วมวิจัย ได้แก่
ชุมชนวิจัยหลัก อำเภอนาดูน ตำบลพระธาตุ ได้แก่ บ้านโกทา บ้านดงน้อย
ตำบลหนองคู ได้แก่ วิสาหกิจชุมชน สมุนไพร โฮมสเตย์ เกษตรกรรมทางเลือก ฯ
ทีมร่วมและเสริม ได้แก่
ภาคีภาครัฐ
-ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด เกษตรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด สำนักงานจังหวัด
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯ
ภาคีภาคเอกชน
-สภาหอการค้า สภาวัฒนธรรม สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด ผู้ประกอบการ (ร้านอาหาร โรงแรม บริษัททัวร์)
ประชาสังคม
-ชมรมผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุ ชมรมหมอพื้นบ้าน และนวดแผนไทย สภาเด็กและเยาวชน สภาฮักแพงเบิ่ง

การดำเนินการวิจัย
1. ทบทวนวรรณกรรมและสืบค้นเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ
2. ออกแบบ LOGO โครงการการบริหารการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยชุมชนจังหวัดมหาสารคามเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์
3. จัดทำเพจเฟสบุ๊ค Maha Sarakham Wellness Tourism เพื่อเป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์โครงการ
4. จัดการประชุมทีมนักวิจัยเพื่อพัฒนาข้อเสนอโครงการ ตลอดจนการประชุมออนไลน์นักวิจัย เตรียมความพร้อมก่อนลงพื้นที่สำรวจบริบท สภาพปัญหา และความต้องการชุมชน
5. ชี้แจงโครงการต่อชุมชนเจ้าของทรัพยากรการท่องเที่ยว
6. ทำความเข้าใจและการระดมความคิดเห็นด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับภาคี
การท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
7. สร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดมหาสารคามร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม
8. ประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการ “การบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ จังหวัดมหาสารคามเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ”
10. ประชุมอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้การทำงานร่วมกับกลุ่มการท่องเที่ยวโดยชุมชน/Business model canvas ในกรอบประเด็นการบูรณาการงานวิจัยและการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
11.ประชุมสัมมนา เพื่อรายงานความก้าวหน้าโครงการวิจัยครั้งที่ 2 (รอบ 6 เดือน) เรื่อง การบริหารการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพจังหวัดมหาสาร คามเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ
(รูปแบบ Online ผ่านโปรแกรม Zoom)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เปลี่ยนชื่อโครงการเป็น International Cultural Exchange and Collaboration: ASIAN+3 Textile (เส้นทางผ้า ASEAN+3)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 100000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมคณะทำงานเครือข่ายภายใน/ภายนอก และต่างประเทศ ครั้งที่ 1 วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 10

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

โครงการหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียงบ้านทัน
มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อเป็นต้นแบบเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียง
2. เพื่อส่งเสริมสุขภาพชุมชนด้วยแพทย์วิถีธรรมทางเลือก
3. เพื่อเผยแพร่แบ่งปันให้บริการแหล่งเรียนรู้
จำนวนคนเข้าร่วมกิจกรรม
1. ทำนา14คน (กลุ่มผู้นำ) กลุ่มผู้รับการถ่ายทอดทักษะและองค์ความรู้ 50 คน
2. ปลูกผัก10คน (กลุ่มผู้นำ) กลุ่มผู้รับการถ่ายทอดทักษะและองค์ความรู้ 50 คน
3. แพทย์วิถีธรรมทางเลือก กลุ่มผู้รับการถ่ายทอดทักษะและองค์ความรู้ 50 คน
พื้นที่โครงการ บ้านทัน ตำบลนาสีนวน อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
กิจกรรมที่ดำเนินการเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ตามแผนกิจกรรม
เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำการเกษตรเคมี มาเป็นเกษตรอินทรีย์ ในนาข้าวและการปลูกผักอินทรีย์ ส่งเสริมสุขภาพชุมชนด้วยการแพทย์ทางเลือกวิถีธรรม สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การเกษตรอินทรีย์ ให้ผู้สนใจ ผลิตผักอินทรีย์จำหน่ายให้กับผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัย ผลิตสารชีวภัณฑ์ใช้และจำหน่าย เผยแพร่องค์ความรู้ได้อย่างมั่นใจ ให้ความรู้การรักษาสุขภาพเบื้องต้นโดยการแพทย์ทางเลือกวิถีธรรม ศูนย์บาทรักษาทุกโรค ด้วยพืชสมุนไพรอินทรีย์ที่กลุ่มเพาะปลูกเอง เกษตรกรสามารถปลูกผักอินทรีย์เพื่อบริโภคได้เองในครัวเรือนได้อย่างปลอดภัยและเหลือจำหน่ายทางออนไลน์ให้กับสมาชิกภายในหมู่บ้านและใกล้เคียงสั่งจองทางออนไลน์ ได้ มีความต้องการสูงมากจนไม่เพียงพอกับความต้องการ เนื่องจากผักที่ปลูกมีความกรอบหวาน จากสารชีวภัณฑ์ที่กลุ่มผลิตและใช้เองทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในความปลอดภัยสูง และสั่งซื้อแทนผักตลาดทั่วไป เกษตรกรใช้พืชผักสมุนไพรที่ปลูกเองในการใช้รักษาสุขภาพตนเองหลังจากผ่านการอบรมแพทย์ทางเลือกวิถีธรรม แปลงปลูกผักอินทรีย์ กลายเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับถ่ายทอดและให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมเรียนรู้ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นห้องเรียนในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ เศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ลดรายจ่าย เพิ่มความมั่นใจเพิ่มความปลอดภัย พัฒนาคุณภาพมาตรฐาน สร้างมูลค่าเพิ่ม นวัตกรรมภูมิปัญญาให้เกิดประโยชน์ลดรายจ่ายสารเคมีปุ๋ยเคมี ยารักษาโรค สร้างอาหารปลอดภัยได้เองและขยายกำลังการผลิตผักปลอดสารพิษสู่สังคมใกล้เคียงรอบข้างได้ เหลือใช้ในครัวเรือน จำหน่ายเพิ่มรายได้ สังคม ลดการย้ายถิ่นฐาน สุขภาพแข็งแรง สังคมได้รับอาหารปลอดภัยจากสารเคมี สังคมมีความรู้การรักษาสุขภาพเบื้องต้นจากสมุนไพรอินทรีย์ปลูกเอง การใช้สารชีวภัณฑ์และผลิตสารชีวภัณฑ์ใช้เอง ลดรายจ่าย การพึ่งตนเองด้านอาหารปลอดภัย มีความรู้การแพทย์แผนไทยทางเลือกวิถีธรรม (สามารถประหยัดงบประมาณค่ารักษาพยาบาล ของรัฐบาลได้ถ้าจริงจังในการนำเอาความรู้ที่ได้รับการอบรมไปใช้จริงและต่อเนื่อง) สิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการสะสมของสารเคมีในพื้นที่ทำการเกษตร สิ่งแวดล้อมการเกษตรในชุมชน สามารถบริโภคผักที่ปลูกได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยจากสารเคมี
1. การปลูกข้าวอินทรีย์ จะใช้สารชีวภัณฑ์ทดแทนสารเคมี ทำให้ลดต้นทุนการปลูกข้าว ในพื้นที่ทดลอง 1 ไร่ สามารถลดค่าใช้จ่าย ค่าปุ๋ยเคมีและสารเคมีได้
ข้าวอินทรีย์ บาท ข้าวเคมี บาท
1.ใช้เมล็ดพันธุ์(นาดำ) 6 กก./ไร่X30=180 180 1.ใช้เมล็ดพันธุ์(นาหว่าน) 30 กก./ไร่x30 900
2.ค่าไถกลบ /ไร่ 200 2.ค่าไถกลบ /ไร่ 200
3.ค่าไถหว่าน/ไร่ 250 3.ค่าไถหว่าน/ไร่ 250
4.ค่ารถเกี่ยว/ไร่ 600 4.ค่ารถเกี่ยว/ไร่ 600
5.ค่าสารชีวภัณฑ์/ไร่ 80 5.ค่ายาปราบศัตรูพืช/ไร่ 90
6.ค่าน้ำหมักฆ่าหญ้า/ไร่ 60 6.ค่ายาปราบศัตรูพืช/ไร่ 100
7.ค่าปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมัก/ไร่ 400 7.ค่าจ้างฉีดพ่นสารเคมี/ไร่ 100
8.ค่าแรงงาน 600 8.ค่าปุ๋ยเคมี46-0-0 /1กระสอบ 640
9.ค่าปุ๋ยเคมี16-16-8 /1.5กระสอบ 1,035
ต้นทุนรวม 2,370 ต้นทุนรวม 3,525
ผลผลิตข้าว/ไร่ 597กก ผลผลิตข้าว/ไร่ 350 กก
ขายกกละ 10 บาท 5,970 ขายกกละ 10 บาท 3,500
ได้ส่วนต่าง 5970-2,370= 3,600 3,525-3,500= 25

สรุปจะเห็นได้ว่า การทำนาข้าวอินทรีย์โดยใช้สารชีวภัณฑ์แทนสารเคมีและปุ๋ยเคมี จะให้ผลตอบแทน ที่แตกต่างกัน ในพื้นที่ 1 ไร่ เมื่อหักต้นทุนการผลิตออกแล้วหลังจากขายข้าว การทำนาอินทรีย์ จะได้เงิน 3,600 บาท ส่วนนาที่ใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี หลังจากหักต้นทุนจะเหลือเงิน 25 บาท แต่ชาวนาทุกหมู่บ้านก็ยังต้องทำนาเพราะวัฒนธรรมความเชื่อและการทำนาในบริบทหมู่บ้านภาคอีสานครมีนาทำแสดงถึงความมั่นคง
หมู่ที่ จน.ครัวเรือน จน.ประชากร ทำนา/ครัวเรือน พท.ทำนา/ไร่ ปลูกผัก/ครัวเรือน
5 135 707 86 1883 23
26 63 315 56 735 10
รวม 198 1,022 142 2,618 33

การปลูกผักปลอดสารพิษ การใช้สารชีวภัณฑ์ การปลูกผักจะใช้สารชีวภัณฑ์ทดแทนสารเคมี เพื่อลดรายจ่ายและความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและผู้ผลิตตลอดจนสิ่งแวดล้อม การจำหน่าย มีการจำหน่ายทางออนไลน์ โดยการสั่งจองผักที่ปลูก ผู้ปลูกผักจะบอกลูกค้าทางออนไลน์ บอกชนิดพืชและกำหนดวันเก็บเกี่ยว จำนวนผลผลิต การขยายพื้นที่ปลูก จำนวนผู้ปลูกผัก นำร่องจำนวน 10 ครัวเรือน เน้นการใช้สารชีวภัณฑ์ผลิตเองใช้เอง มี ความต้องการ ผักปลอดสารสูงมากและผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ในหมู่บ้าน เนื่องจากชาวบ้านมีความมั่นใจในความปลอดภัย ไม่มีสารพิษตกค้าง การกินและบริโภคผักจึงมีการบอกต่อกัน จึงได้รับความนิยมสูง อนาคต ต้องการเครื่องหมาย Q รับรองความปลอดภัยจากกรมวิชาการเกษตร และต้องการโรงเรือนเพาะปลูกผักนอกฤดู เพื่อปลูกผักปลอดสารพิษได้ตลอดปี สามารถขยายตลาดในห้างใหญ่ๆได้ ครบวงจร เมื่อกิจกรรมเจริญก้าวหน้า จำนวนสมาชิกจะเพิ่มตาม
1. เชื้อราบิวเวอเรีย
2. เชิ้อราไตรโคเดอรมา
3. จุลินทรีย์จาวปลวก
4. จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
5. ฮอร์โมนไข่
6. จุลินทรีย์หน่อกล้วย
7. น้ำหมักหอยเชอรี่
8. น้ำหมักพ่อ(ผลไม้)
9. น้ำหมักแม่(ยอดไม้)
10. จุลินทรีย์น้ำซาวข้าว

การอบรมสาธิตให้ความรู้ด้านแพทย์วิถีธรรมทางเลือก ยา9 เม็ด เป็นการสร้างเสริมสุขภาพชุมชนด้วยพืชสมุนไพรและผักที่ปลูกในชุมชนมาใช้บริโภคให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและคนรอบข้างเป็นการรักษาสุขภาพชุมชนเบื้องต้น โดยลดภาระของโรงพยาบาล ด้วยชุมชนรักษาสุขภาพด้วยตังเอง จากความรู้ที่ไม่ซับซ้อน แต่รักษาโรคเบื้องต้นที่เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานได้จริง ด้วยความเพียรศึกษาเรียนรู้นำไปปฏิบัติให้กับตนเองได้ผลจึงบอกต่อตามหลักการแพทย์วิถีธรรมที่ถูกต้องอาหารเป็นยา ศูนย์บาทรักษาทุกโรค ด้วยตัวเราเองเป็นหมอที่ดีที่สุดในโลก
ยาเม็ดที่ 1 การรับประทานสมุนไพรปรับสมดุล
ยาเม็ดที่ 2 การกัวชา ขูดพิษ
ยาเม็ดที่ 3 การสวนล้างลำไส้ใหญ่
ยาเม็ดที่ 4 การแช่มือแช่เท้าในน้ำสมุนไพร
ยาเม็ดที่ 5 การพอก ทา หยอด ประคบ อบ อาบ ด้วยสมุนไพรที่ถูกกัน ใช้แล้ว สบาย เบากาย มีพลัง
ยาเม็ดที่ 6 การออกกำลังกาย กดจุดลมปราณ โยคะ กายบริหาร ที่ถูกต้อง
ยาเม็ดที่ 7 การรับประทานอาหารปรับสมดุลร่างกาย
ยาเม็ดที่ 8 ใช้ธรรมมะ ทำใจให้สบาย ผ่อนคลายความเครียด
ยาเม็ดที่ 9 รู้เพียร รู้พัก ให้พอดี

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 200000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

วันที่ 16-17 ธันวาคม 2564 น.ส.จงรักษ์ และนายไกรวิทย์ เข้าอบรมการใช้งานระบบ การจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางshopee

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ได้มีการจัดอบรมออนไลน์ เกี่ยวกับสร้างเอกลักษณ์ให้กับสินค้า และตราสัญลักษณ์ ให้แก่ตัวแทนกลุ่มทอผ้า 6 กลุ่มนำร่อง ณ ห้องประชุมชั้น 3 สถาบันวิจัยศิลปะฯ และในวันเดียวกันได้ลงพื้นที่กลุ่มทอผ้าบ้านหนองบัว ต.หนองกุง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม เพื่อนำลายผ้าทอและตัวอย่างสียอมมอบให้ทางกลุ่มทอผ้าตามลวดลายที่โครงการออกแบบ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

วันที่ 12 มกราคม 2565 เวลา 13.30 น. ได้มีการประชุมพิจารณารับบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิถีทรรศน์ฯ ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 และกำหนดผู้ทรงคุณวุฒิในการพิจารณาแต่ละบทความ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณารับบทความเข้าตีพิมพ์ แต่ในเบื้องต้นได้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้ผู้เขียนปรับแก้ก่อนส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิอ่าน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.วันที่ 14 ธันวาคม 2564 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน ได้จัดโครงการพัฒนาระบบการจัดการความรู้เพื่อพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ ในหัวข้อ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเขียนแผนการปฏิบัติงาน (Action Plan) สำหรับบุคลากร เพื่อให้บุคลากรสามารถจัดทำ Action Plan ในงานที่รับผิดชอบให้สอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงานและการบูรณาการสร้างกระบวนการเรียนรู้ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นเลิศ โดย อาจารย์ทม เกตุวงศา ผู้อำนวยการ ได้กล่าวต้อนรับวิทยากร 2 ท่าน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คือ นางสาวสายฝน ทัพขวา และนางสาวอรไท สีหาบุญมี ที่ได้ให้เกียรติมาถ่ายทอดและร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ โดยได้รับความสนใจจากบุคลการเข้าร่วมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง และในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้บริหารและบุคลากร สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน ได้ร่วมระดมความคิดวิเคราะห์ SWOT ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ ของหน่วยงาน เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในทิศทางการขับเคลื่อนภารกิจของสถาบันวิจัยศิลปะ ให้บรรลุเป้าหมาย และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป
2. รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการต่อผู้บริหาร

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 80

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 4000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ตามที่ทีมวิจัยได้ออกแบบลายผ้าและโทนสีใหม่ และได้กระจายให้กลุ่มทอผ้านำไปทอโดยลวดลายนั้นแตกต่างกันไป กลุ่มทอผ้าได้เริ่มทอและเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นบ้างส่วน ซึ่งทีมวิจัยได้ให้บางกลุ่มทอเพิ่มเติม เมื่อทีมวิจัยได้รับผ้าที่ทอเสร้จแล้วจะนำไปออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะของแต่ละกลุ่มทอผ้าต่อไป

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ในระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2565 สถาบันวิจัยศิลปะฯมีการดำเนินโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ และกิจกรรมถ่ายทอดแผนกลยุทธ์ และตัวชี้วัดตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ณ โรงแรม The River Hotel อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565
กิจกรรมช่วงเช้า กิจกรรมศึกษาดูงานด้านศิลปวัฒนธรรม และนมัสการพระธาตุต่างๆภายในเขตพื้นที่จังหวัดมุกดาหารและจังหวัดนครพนม
กิจกรรมช่วงบ่าย กิจกรรมบรรยายและถ่ายทอดแผนกลยุทธ์ โดย อาจารย์ทม เกตุวงศา ผู้อำนวยการฯ
• บรรยายเรื่อง “นโยบายและทิศทางการพัฒนาสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
• ถ่ายทอดแผนกลยุทธ์ และตัวชี้วัดตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
• วิเคราะห์ความเสี่ยงและการควบคุมภายใน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
11 กุมภาพันธ์ 2565
ศึกษาดูงานด้านศิลปวัฒนธรรมและนมัสการพระธาตุในเขตพื้นที่จังหวัดนครพนมและจังหวัดสกลนคร

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 70

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 30000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินโครงการเพื่อรายงานต่อผู้บริหารและรายงานในที่ประชุมประจำเดือน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

วันที่ 11 มีนาคม 2565 เวลา 13.00 น. ได้ดำเนินการประชุมวางแผนคณะกรรมการดำเนินโครงการร่วมกับบุคลากรภายในหน่วยงานโดยในปี 2565 โดยในปี 2565 จะวางแผนการดำเนินงานในประเด็นของอาหารในเอกสารใบลาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 10

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1. ดำเนินงานวิจัยในบทที่ 1-2
2. สร้างเครื่องมือในการสอบถามความพึงพอใจ โดยจะดำเนินการให้ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาโครงการวิจัยได้ตรวจสอบ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 10

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

มีการประชุมร่วมกับงานพิพิธภัณฑ์ เพื่อรับนโยบายการดำเนินโครงการจากผู้อำนวยการ และมีข้อสรุปให้งานพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการขบวนการทอผ้าตั้งแต่การจัดทำเส้นใยจนสิ้นสุดกระบวนการทอผ้า แล้วให้งานเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการ ดำเนินการจัดทำนิทรรศการออนไลน์

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมกำกับติดตามผู้รับผิดชอบเพื่อเสนอหลักสูตรระยะสั้นที่จะเปิดอบรม ปรับปรุงทบทวนเพื่อนำเสนอที่ประชุมขอสถาบันฯ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-ทีมวิจัยได้ออกแบบลวดลายผ้าที่เป็นลวดลายเฉพาะของแต่ละกลุ่มทอผ้า โดยกลุ่มทอผ้าได้ดำเนินการทอเรียบร้อยแล้วบางกลุ่ม และได้ส่งผ้าทอกลับไปให้ทีมวิจัยนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่าย
-ทีมวิจัยได้สกัดสีผ้าจากวัตถุดิบธรรมชาติเพื่อให้ได้ผงสีย้อมผ้าธรรมชาติ ซึ่งสามารถสกัดผงสีจากฝางและครั่งเรียบร้อยแล้ว ทางโครงการจะมีการจัดการอบรมการใช้ผงสีธรรมชาติให้กับกลุ่มทอผ้า

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.ดำเนินการสรุปสังเคราะห์ข้อมูล จัดทำรูปเล่มเนื้อหาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นชุมชนในตำบลขามเฒ่าพัฒนา รวมถึงของดีแต่ละหมู่บ้านในชุมชนขามเฒ่าพัฒนา
2.ดำเนินการจัดทำตารางวิเคราะห์เนื้อหานิทรรศการ เพื่อเตรียมออกแบบพิพิธภัณฑ์ขามเฒ่าพัฒนา

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.ดำเนินการจัดทำเวทีชาวบ้านเพื่อการตรวจสอบข้อมูลที่จัดทำขึ้น
2.ดำเนินการจัดทำเวทีชาวบ้านเพื่อตรวจสอบตารางวิเคราะห์เนื้อหา
3.ดำเนินการออกแบบนิทรรศการเคลื่อนที่ของชุมชนขามเฒ่าพัฒนาเพื่อจัดแสดง

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.ประชุมเตรียงงานการค้นหาโจทย์โครงการ
2.ศึกษาข้อมูลบริบทชุมชน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 50000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.วางแผนการออกแบบนิทรรศการ
2.เขียนบทนิทรรศการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.รวบรวมข้อมูลสังเคราะห์ข้อมูล
2.ลงพื้นที่เก็บตกข้อมูลแผนที่ทางวัมนธรรม
3.กรอกข้อมูลลงในระบบแผนที่ทางวัฒนธรรมของ บพท

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.ประชุมปรึกษาหารือโครงการ
2.วางแผนกิจกรรมโครงการ
3.ศึกษาข้อมูลบริบทชุมชน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 50000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนินการประสานงานกับทีมวิจัย คณะทำงาน และทีมเครือข่ายในพื้นที่ ในการจัดประชุมเพื่อวางแผนการทำงานร่วมกัน และมีการมอบหมายงานให้นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ สาขาการจัดการท่องเที่ยว คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม เพื่อดำเนินการจำลองการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์ในแต่ละชุมชน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การบริหารการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ จังหวัดมหาสารคาม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ เป็นโครงการแผนงานวิจัยที่ประกอบด้วย 2 โครงการย่อย ได้แก่ 1) การพัฒนาสินค้าและบริการ เชิงสุขภาพจากฐานภูมิปัญญาสมุนไพรและวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชน จังหวัดมหาสารคาม โครงการชุดนี้เป็นการวิจัยด้านอุปทานของการท่องเที่ยว และโครงการย่อย 2) โครงการการพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากฐานภูมิปัญญาสมุนไพรสมุนไพรและวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ จังหวัดมหาสารคาม โครงการชุดนี้เป็นการวิจัยด้านอุปสงค์ของการท่องเที่ยว
โดยโครงการแผนงานวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อบูรณาการการท่องเที่ยว สร้างเครือข่ายและกลไกการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ จังหวัดมหาสารคาม 2. เพื่อสังเคราะห์ความรู้ในการสร้างต้นแบบแนวทางการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพเชิงสุขภาพ จังหวัดมหาสารคาม โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ในพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพใน 3 พื้นที่ ในอำเภอนาดูน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ชุมชน กลุ่มวิสาหกิจผู้ผลิตสมุนไพร ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชน โดยใช้เครื่องมือวิจัยการสัมภาษณ์ การถอดบทเรียน และโครงการย่อยที่ 2 ได้ใช้วิธีวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Method Research) ระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ที่มุ่งทำความเข้าใจ เชิงลึกในรายละเอียด บริบทและพลวัตของสิ่งที่ต้องการศึกษาแบบองค์รวม (Holistic)
ผลการศึกษาของโครงการแผนงานวิจัยพบว่า
การบริหารการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ จังหวัดมหาสารคาม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีผลการดำเนินงานเพื่อตอบวัตถุประสงค์การวิจัยดังนี้
1. การบูรณาการการท่องเที่ยว สร้างเครือข่ายและกลไกการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน เชิงสุขภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ จังหวัดมหาสารคาม
การสร้างเครือข่ายและกลไกในการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ การสร้างเครือข่ายเป็นรูปแบบของความสัมพันธ์ทางสังคม ระหว่างคนและกลุ่ม หรือองค์กร เป็นการนำศักยภาพของสมาชิก มารวมกันไม่ว่าจะเป็นความรู้ แรงงาน และทรัพยากร เพื่อดำเนินกิจกรรม เพื่อการแลกเปลี่ยน ร่วมทำกิจกรรม การพึ่งพาอาศัยกัน มีการจัดการโครงสร้างไปสู่การสร้างกลไก ร่วมกันกำหนดเป้าหมาย แนวทางร่วม ภายใต้เป้าหมายและวิธีการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เครือข่ายที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทำวิจัยพบว่าเกิดขึ้นมี 2 มิติ ได้แก่ 1) เครือข่ายในเชิงพื้นที่ที่ ได้แก่ ชุมชนบ้านดงน้อย บ้านโกทา และบ้านหนองป้าน เป็นกลุ่มชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้กับองค์พระธาตุนาดูน ที่จัดได้ว่าเป็นพื้นที่สามารถติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนกันได้สะดวก และสามารถเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้และการจัดการท่องเที่ยวได้ 2) เครือข่ายในเชิงประเด็นด้านสมุนไพรและการท่องเที่ยว ชุมชนทั้ง 3 แห่งในพื้นที่วิจัยมีศักยภาพในการผลิต แปรรูปสมุนไพร และการนำผลผลิตสมุนไพรมาใช้ในการแปรรูป โดยลักษณะเครือข่ายที่เกิดขึ้นระหว่างชุมชนทั้ง 3 ชุมชน เป็นการทำกิจกรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการการท่องเที่ยว โดยที่ตำบลหนองคูที่เป็นกลุ่มวิสาหกิจที่ผลิตสมุนไพรแปลงใหญ่ บ้านโกทาก็มีครัวเรือนที่ปลูกสมุนไพร และมีการแปรรูปสมุนไพรเพื่อขายในกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาผลิตสินค้าบริการการท่องเที่ยวได้ สำหรับบ้านดงน้อยเป็นพื้นที่มีทุนทรัพยากรป่าที่เป็นแหล่งอาหารและสมุนไพร และมีประสบการณ์การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน จากศักยภาพเหล่านี้สามารถที่ส่งเสริมให้ทั้ง 3 พื้นที่ที่มีความโดดเด่นในด้านการเป็นแหล่งรวมและการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร สามารถ เชื่อมร้อยเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพได้ (Wellness CBT Network) และชุมชนได้มีการร่วมในการวางแผนและกำหนดบทบาทหน้าที่ในการทำงานร่วมกันในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน และมีการตั้งคณะทำงานการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพที่เป็นการประสานงานเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวครบวงจร นอกจากนี้ยังเกิดการทำงานเครือข่ายในเชิงระดับคือระดับพื้นที่ ระดับอำเภอและระดับจังหวัด ที่เป็นการเชื่อมร้อยเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในการวางแผนและการ บูรณาการกิจกรรมการท่องเที่ยวร่วมกัน เช่น การเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพของพื้นที่เป้าหมายกับเส้นทางการท่องเที่ยวนครจำปาศรี ที่เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของเครือข่ายวัฒนธรรม เช่น มูลนิธิพระธาตุนาดูนและวัฒนธรรมจังหวัด และเอกชน กลุ่มผู้ประกอบการรถราง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลพระธาตุและหนองคู และองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นต้น
การบูรณาการผ่านกลไกขับเคลื่อน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับนโยบาย ระดับพื้นที่ และระดับท้องถิ่น มีการบูรณาการหน่วยงานในการทำงาน ด้วยการกำหนดโครงสร้างกรรมการที่มีกิจกรรม โครงการในภารกิจของหน่วยของหน่วยงาน เช่น พัฒนาชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด มูลนิธิพระธาตุนาดูน และหน่วยงานผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น
2. เพื่อสังเคราะห์ความรู้ในการสร้างต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพจังหวัดมหาสารคาม ความรู้ในการสร้างต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพจังหวัดมหาสารคาม ได้มีกระบวนการวิจัย 1.การค้นหาปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาจัดการท่องเที่ยว 2.การค้นหาศักยภาพชุมชน ในเรื่องจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค 3.การพัฒนาความรู้เรื่องการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน 4.การลงมือปฏิบัติ โดยการทำกิจกรรมท่องเที่ยว และ 5. กระบวนการติดตามผล
การค้นหาปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาจัดการท่องเที่ยว พบว่าด้านศักยภาพและปัญหาของชุมชน ด้านที่ 1 ทรัพยากรท่องเที่ยว ชุมชนมีความพร้อมด้านทรัพยากรการท่องเที่ยว มีแหล่งสมุนไพรและแหล่งอาหาร ที่จะนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยว, มีแหล่งวัฒนธรรมสำหรับการท่องเที่ยว และโบราณสถานคือพระธาตุนาดูนและกู่สันตรัตน์ที่เป็นอโรคยาศาลาตั้งแต่สมัยทวาราวดี สำหรับการท่องเที่ยว ด้านที่ 2 องค์กรชุมชน ผู้นำชุมชน และกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตสมุนไพรแปลงใหญ่ที่มีความพร้อมมาก ด้านที่ 3 การจัดการ ยังไม่มีความพร้อมด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว ด้านการจัดการบัญชีและการเงิน การให้บริการเพื่อการดูแลสุขภาพ การจัดทำและดำเนินการเรื่องสื่อประชาสัมพันธ์ ด้านที่ 4 การเรียนรู้ มีปราชญ์ชุมชน นักเล่าเรื่องชุมชน เรื่องเล่าและประวัติของชุมชนแต่ยังขาดทักษะในการนำเสนอให้น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยว ด้านที่ 5 สถานที่ท่องเที่ยวในชุมชนเพื่อคนทุกคน (TFA) (ผู้สูงอาย/ุผู้พิการ) ยังไม่มีความพร้อมของความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ และคนพิการ
3.การพัฒนาความรู้เรื่องการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน (โครงการย่อย 1)ได้มีการพัฒนาความรู้ CBT การอบรมเชิงปฏิบัติการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพเพื่อการท่องเที่ยว จากฐานภูมิปัญญา 3 ฤดู ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ประเภทเครื่องดื่ม ได้แก่ ตำรับเครื่องดื่มสมุนไพร 3 ฤดู ได้แก่ ตรีผลา เครื่องดื่มสำหรับฤดูร้อน ตรีกฎกสำหรับฤดูฝน ตรีสารสำหรับฤดูหนาว ประเภทน้ำมันหอมระเหย ได้ตำรับน้ำมันหอม อโรมาเพื่อผ่อนคลายสำหรับ 3 ฤดู จากสมุนไพรในชุมชน ประเภทเครื่องสำอาง ได้แก่ ตำรับมาร์คหน้าจากการใช้สมุนไพรในท้องถิ่นได้แก่ รางจืด รากสามสิบ ตุมตัง เพื่อการขจัดสารพิษ เพิ่มความชุ่มชื่น และเรื่องสิวฝ้า ด้านการสร้างมาตรฐานรองรับนักท่องเที่ยว ได้มีการคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างมาตรฐานสิ่งอำนวย ความสะดวกสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุและสำหรับทุกคน (Tourism For All) ที่ศูนย์เรียนรู้ข้าวอินทรีย์และ โรงละครหุ่นเชิด บ้านดงน้อยและออกแบบเทศกาลท่องเที่ยวสร้างสรรค์ หมออีสาน สำหรับด้านบริการสุขภาพ เกิดโปรแกรมดูแลสุขภาพ 3 ฤดู เป็นโปรแกรมในการให้บริการบำบัดรักษาสุขภาพด้วยวิธีการดั้งเดิม ผสมผสานกับแนวคิดเรื่องความสมดุลของคนและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ 5 กิจกรรม ได้แก่ 1) Check-in& check up 2) Mind- body wellness and purifying retreat program 3) การบริหารกายและจิตยามรุ่งอรุณ 4) อาหารสุขภาพจากฐานภูมิปัญญา 3 ฤดู 5) กิจกรรมตระหนักรู้ด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน /ด้านอุปสงค์ (โครงการย่อยที่ 2) กลุ่มที่มีศักยภาพสำหรับการท่องเที่ยวโดยชุมชนในจังหวัดมหาสารคาม มีกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่ม โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่ม Local & Regional Seekers ที่ให้ความสนใจกับการเติมพลังให้กับตนเอง เพื่อเยียวยาจิตใจและฟื้นฟูพลัง สร้างสมดุลให้ชีวิต การได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปัจจัยดึงดูดที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คือ อาหารและกิจกรรมท้องถิ่นมีวัตถุดิบที่หลากหลาย กิจกรรมท่องเที่ยวเทศกาลและกิจกรรมสันทนาการ และกลุ่มเป้าหมายรอง คือ กลุ่ม Relationship Enhances ที่สนใจปัจจัยดึงดูดสำคัญคือ ความสวยงามของภูมิทัศน์ของแหล่งท่องเที่ยว มีสถานที่ช่วยผ่อนคลายทางธรรมชาติ และมีความปลอดภัย สะอาดและสุขอนามัยที่ดี ผลการพัฒนาจัดทำหลักสูตรในการพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชน ได้มีกระบวนการสำรวจ ประเมินศักยภาพและปัญหาของชุมชน พบว่าปัญหาต้นทางด้านการแปรรูปสมุนไพรไม่หลากหลาย สินค้ายังไม่ได้มาตรฐาน ขาดระบบการจัดการที่ดี และไม่มีช่องทางการขายที่หลากหลาย จึงมีความต้องการด้านการสร้างบรรจุภัณฑ์ และการเพิ่มช่องทางการนำเสนอสินค้าและบริการให้น่าสนใจ โดยทีมวิจัยได้ร่างหลักสูตรพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชนในการสร้างเนื้อหาเรื่องราวโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มตลาด ให้ชุมชนมีศักยภาพในการนำเสนอ เรื่องราวที่น่าสนใจบน Social media เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทั้ง 3 พื้นที่
ในระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ดำเนินการเปิดเส้นทาง ***HELLO นาดูน*** ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ ท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ “ปรับกาย เสริมจิต ชีวิตสมดุล” อำเภอเภอนำดูน จังหวัดมหาสารคาม (2 วัน 1 คืน เดินทางโดยรถรางนำเที่ยว)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 70

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนินการสร้างเครื่องมือแบบสอบถามการดำเนินงานด้านกาiวิจัยโดยมี ดร.อัจฉรี จันทมูล ที่ปรึกษาโครงการฯ ได้ตรวจสอบเครื่องมือแบบสอบถามด้านการวิจัย ทั้งนี้จะได้ดำเนินการส่งเครื่องมือแบบสอบถามไปตามคณะหน่วยงานเพื่อให้บุคลากรสายสนับสนุนที่ดำเนินงานด้านการจัดการความรู้และผู้ปฏิบัติ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ของหน่วยงานกรอกแบบสอบถาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ข้อเสนอโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 100000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

รายงานความก้าวหน้า 28 มีนาคม 2565

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 100000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ทำเรื่องขออนุมัติงบประมาณและโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 15

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 70000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

2.รายงานความก้าวหน้าโครงการฯ ไหมเมืองแม่ : ผ้าทอมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 50000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ตามไฟล์ที่แนบมาครับ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนินการขออนุมัติแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาและคณะทำงาน ตามคำสั่งมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ 423/2565 ลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมทีมคณะทำงานเพื่อวางแผนการทำงานร่วมกัน และติดตามการดำเนินงาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 4200

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว "สุขภาพดี เกษตรอินทรีย์ สะดืออีสาน" พื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 15

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 18000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

กองส่งเสริมการวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เรียนเชิญผู้รับผิดชอบและผู้ร่วมรับผิดชอบโครงการบริการวิชาการแบบบูรณาการเพื่อสร้างนวัตกรรมและชุมชนต้นแบบสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ภายใต้ชื่อ “ชุมชนต้นแบบเกษตรอินทรีย์ครบวงจรเพื่อการท่องเที่ยว” เข้าร่วมประชุมติดตามผลการดำเนินงานและการจัดทำคอนเทนต์ของโครงการดังกล่าว ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 (เลื่อนไปเป็นวันที่ 10 มิถุนายน 2565)
ณ ห้องประชุมศูนย์ความเป็นเลิศทางนวัตกรรมไหม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ดังนั้นเพื่อให้การบริหารจัดการและการจัดทำคอนเทนต์ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่โครงการดังกล่าว
เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อมหาวิทยาลัยฯ และชุมชนโดยรวม สถาบันวิจัยศิลปะฯ จึงได้ขอเรียนเชิญคณะทำงานเข้าร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือและให้คำแนะนำ ในวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 เวลา 17:00 น. - 19:00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 3 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน ทั้งนี้เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวนำเสนอผลการดำเนินงานต่อมหาวิทยาลัยฯ และเพื่อจัดทำคอนเทนต์ของโครงการต่อไป

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

มีการจัดประชุมเพื่อคัดเลืกผู้ทรงคุณวุฒิอ่านบทความ และส่งบทความให้ผู้ทรงเรีบยร้อยแล้ว

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 15

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนินการออกแบบนิทรรศการแล้วเสร็จ
ข้อมูลแล้วเสร็จ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

- บันทึกข้อมูลลงระบบหลักสูตรระยะสั้นเพื่อให้ผู้สนใจลงทะเบียนอบรม จำนวน 7 หลักสูตร
- ประชาสัมพันธ์หลักสูตร https://rinac.msu.ac.th/course/

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 1000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนิการจัดนิทรรศการและจัดกิจกรรมในโครงการแล้วเสร็จ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 90

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 30000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดทำนิทรรศการเสร็จสิ้นและจัดแสดงในกิจกรรมงานภูษาศิลป์

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 70

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 30000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดทำกิจกรรม ตลาดศิลปะและวัฒนธรรม มมส เสร็จสิ้น

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 90

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 50000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคามร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายภายใน ภายนอกและหน่วยงานต่างประเทศ ในการดำเนินโครงการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ The 2nd International Conference on Isan Literature beyond a Time Capsule: Isan Foodways จัดกิจกรรมในวันที่ 2 กันยายน 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีประชุมและนำเสนอผลงานวิจัย ผลงานวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ให้แก่คณาจารย์ นักวิจัย นักวิชาการ นิสิต นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา และผู้สนใจตลอดจนเป็นการรวบรวมองค์ความรู้ให้ผู้สนใจได้นำไปใช้ประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง ในการประชุมฯ ดังกล่าวมีวิทยากรบรรยายพิเศษผ่านสื่อออนไลน์ ในประเด็น Foodways in a Changing World และหัวข้อ Foodways in a Changing World

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 80

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 40000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

มีการจัดทำรูปเล่มวารสาร ปี่ที่ 1 ฉบับที่ 3 และเผยแพร่เรียบร้อยแล้ว

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 10000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดทำรายงานสรุปโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-เสนอขออนุมัติโครงการ
-จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน
-ประชุมหารือวางแผน
ดำเนินงาน
-เตรียมข้อมูลและประสานงานกับทุกฝ่าย
ที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-ดำเนินการเตรียมสถานที่ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565
-ดำเนินการจัดกิจกรรมวันสถาปนาในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 10000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การประชุมระดมความคิด ครั้งที่ วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2565

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ประชุมทีมคณะทำงาน เพื่อรายงานผลการประชุมร่วมกับชุมชน การลงพื้นที่สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว และการทดลองเส้นทางท่องเที่ยว ก่อนหาข้อสรุปนำมาออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวฯ และการจัดทำคอนเทนต์การท่องเที่ยวฯ เพื่อการวางแผนเชิญชวนประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวในเส้นทางดังกล่าวต่อไป

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 3000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

วันที่23-24 พฤษภาคม 2565 จัดกิจกรรมท่องเที่ยวโปรแกรม 2 วัน 1 คืน ในเส้นทางท่องเที่ยว “สุขภาพดี เกษตรอินทรีย์ สะดืออีสาน” พื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ขึ้น โดยได้เชิญชวนผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้าร่วมในทริปดังกล่าวนี้ด้วย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 36000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดกิจกรรมท่องเที่ยวโปรแกรม 1 วัน ในเส้นทางท่องเที่ยว “สุขภาพดี เกษตรอินทรีย์ สะดืออีสาน” พื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ขึ้น โดยได้เชิญชวนผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดมหาสารคาม และนักท่องเที่ยวที่สนใจ เข้าร่วมในทริปดังกล่าวนี้ด้วย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 18000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

นอกจากนี้การดำเนินงานในโครงการบริการวิชาการแบบบูรณาการ เพื่อสร้างนวัตกรรมและชุมชนต้นแบบสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ภายใต้ชื่อ “ชุมชนต้นแบบเกษตรอินทรีย์ครบวงจรเพื่อการท่องเที่ยว” ในพื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ยังได้ลงพื้นที่ร่วมกับชุมชน เพื่อนำเรียนเสนอเส้นทางท่องเที่ยว “สุขภาพดี เกษตรอินทรีย์ สะดืออีสาน” ต่อท่านเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม และหัวหน้าส่วนราชการ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 ณ ศูนย์เรียนรู้ไร่แสนดีเกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งถือเป็นการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ถ่ายทำ ออกแบบ จัดทำคู่มือเส้นทางท่องเที่ยว จัดทำรูปเล่มรายงานฉบับสมบูรณ์ จัดทำคลิปวิดีโอเพื่อสรุปและเผยแพร่กิจกรรมโครงการฯ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 15

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 80800

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ค่าธรรมเนียมอุดหนุนสถาบันฯ 20%

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 40000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การบริหารการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ จังหวัดมหาสารคาม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อบูรณาการการท่องเที่ยว สร้างเครือข่ายและกลไกการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ จังหวัดมหาสารคาม 2. เพื่อสังเคราะห์ความรู้ในการสร้างต้นแบบแนวทางการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพเชิงสุขภาพ จังหวัดมหาสารคาม โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ในพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพใน 3 พื้นที่ในอำเภอนาดูน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ชุมชน กลุ่มวิสาหกิจผู้ผลิตสมุนไพร ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชน โดยใช้เครื่องมือวิจัยการสัมภาษณ์ การถอดบทเรียน
สรุปผลการวิจัยและอภิปรายผล
มีผลการดำเนินงานเพื่อตอบวัตถุประสงค์การวิจัยดังนี้
1. การบูรณาการการท่องเที่ยว สร้างเครือข่ายและกลไกการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ จังหวัดมหาสารคาม
การสร้างเครือข่ายและกลไกในการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ เป็นการรวมกลุ่มกันของชุมชนวิจัย 3 พื้นที่ เพื่อดำเนินกิจกรรมการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน มีการร่วมกันจัดการโครงสร้างกลไก มีการกำหนดเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน และจัดตั้งและจดทะเบียนเป็นกลุ่มร่วมกันเป็น วิสาหกิจชุมชนกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ และพบว่าการเกิดขึ้นมี 3 มิติ ได้แก่ 1) เครือข่ายในเชิงพื้นที่ ได้แก่ ชุมชนบ้านดงน้อย บ้านโกทา และบ้านหนองป้าน ที่สามารถติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยน และระดมทรัพยากรมาร่วมกันจัดการท่องเที่ยวได้กันได้สะดวก 2) เครือข่ายในเชิงประเด็นด้านสมุนไพรและการท่องเที่ยว ชุมชนทั้ง 3 แห่งมีศักยภาพและได้รับการพัฒนาทั้งห่วงโซ่คุณค่าการท่องเที่ยวสมุนไพร 3) เครือข่ายตามโครงสร้างความสัมพันธ์เกิดจากปัจเจกที่มีความคุ้นเคยและพึ่งพาอาศัยกันในการทำงาน เป็นความสัมพันธ์แนวนอนและมีการขยายความสัมพันธ์เป็นความสัมพันธ์ในระดับองค์กร
กลไกและการบูรณาการการความร่วมมือพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ จากกระบวนการวิจัยพบว่ากลไกในขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดมหาสารคาม เกิดกลไก 2 ระดับ ได้แก่ 1. กลไกระดับพื้นที่ จากความสัมพันธ์เครือข่ายมีลักษณะของการพึ่งพาอาศัยกัน ในด้านกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีการจดทะเบียนกลุ่มเป็น กลุ่มวิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ มีสมาชิกจำนวน 34 คน 2. กลไกระดับจังหวัด เป็นการขยายการทำงานของเครือข่ายระดับองค์กร ซึ่งก็มีพื้นฐานมาจากการร่วมกันในประเด็นการพัฒนาจังหวัดหลายโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการท่องเที่ยว มีการออกแบบและบูรณาการการทำงานร่วมกัน ที่มาจากตัวแทนภาคส่วนต่าง ๆ ภาครัฐ ภาคเอกชน สภาหอการค้า สมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด สภาฮักแพงฯ และมีความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวของจังหวัด
2. เพื่อสังเคราะห์ความรู้ในการสร้างต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพจังหวัดมหาสารคาม ผลการศึกษาพบว่า
2.1 กระบวนการสร้างต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพจังหวัดมหาสารคาม
การวิจัยเพื่อสร้างต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพจังหวัดมหาสารคามได้ใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมกับชุมชน และหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองสวนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม (มูลนิธิพระบรมธาตุนาดูน) ภาคเอกชนที่ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อสร้างการรับรู้และร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชุมชนเชิงสุขภาพ โดยมีกระบวนการในการดำเนินการ 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1.การค้นหาปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาจัดการท่องเที่ยว 2.การค้นหาศักยภาพชุมชน ในเรื่องจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค 3.การพัฒนาความรู้เรื่องการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน 4.การลงมือปฏิบัติ โดยการทำกิจกรรมท่องเที่ยว และ 5. การติดตามผล ดังมีรายละเอียด ในแต่ละขั้นตอนดังนี้
1. การค้นหาปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาจัดการท่องเที่ยว พบว่าปัจจัยส่งผลให้เกิดการพัฒนาจัดการท่องเที่ยวที่เป็นศักยภาพ มีแหล่งสมุนไพรและแหล่งอาหาร มีแหล่งวัฒนธรรมโบราณสถาน องค์กรชุมชน ผู้นำชุมชนและกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตสมุนไพรแปลงใหญ่ที่มีความเข้มแข็ง แต่กลุ่มยังมีปัญหาการบริหารจัดการการท่องเที่ยว ด้านการจัดการบัญชีและการเงิน ด้านการให้บริการ ด้านสื่อประชาสัมพันธ์ สถานที่ท่องเที่ยว ยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ และคนพิการ
2. การค้นหาศักยภาพชุมชน ในเรื่องจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค เมื่อวิเคราะห์จุดแข็งพบว่าพื้นที่มีกลุ่มที่ปลูกและแปรรูปสมุนไพรที่เข้มแข็ง มีโรงอบสมุนไพร ตู้อบสมุนไพร มีป่าชุมชน 2 แห่ง ที่เป็นแหล่งทรัพยากรอาหารของคนในและนอกชุมชน การมีความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม เช่น หมอลำหุ่นกระติบ มีโบราณสถานประวัติศาสตร์ของพื้นที่มีอายุร่วม 3,000 ปี มีพระบรมธาตุนาดูนที่เป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวพุทธ เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญให้เข้ามาเยือนพื้นที่ ในด้านโอกาสพื้นที่ได้รับการสนับสนุนเป็นเมืองสมุนไพร 1 ใน 14 จังหวัดของประเทศ
3. การพัฒนาความรู้ในการสร้างต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ ได้มีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 3.1. การเพิ่มความรู้และการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้กับกลุ่ม 3.2. การพัฒนาศักยภาพการผลิตและการแปรรูปสมุนไพรเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยว 3.3. การประชาสัมพันธ์ จุดเด่นอัตลักษณ์ของพื้นที่ ทางวัฒนธรรมโบราณคดี สมุนไพรในพื้นที่ 3.4 การทำการตลาดและการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว 3.5 การอบรมเรื่องการบริหารจัดการ การทำบัญชีและการเงิน การคำนวณต้นทุน การออกแบบผลิตภัณฑ์ชุมชน การออกแบบสื่อ ประชาสัมพันธ์ในชุมชน และการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว
4. การลงมือปฏิบัติ โดยการทำกิจกรรมท่องเที่ยว การทดลองการท่องเที่ยวโดยการร่วมกันของทีมวิจัยและทีมชุมชนและภาคีที่เกี่ยวข้อง โดยมีการออกแบบการจัดการท่องเที่ยวตามเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เชื่อมร้อยกับเส้นทางท่องเที่ยววัฒนธรรม โดยมีการจัดการทดลองท่องเที่ยว 4 ครั้ง ด้วยเส้นทาง“Hello นาดูน” โดยโปรแกรมมีทั้งการพัฒนากายและจิต และจิต ปรับกายด้วยการทำฤๅษีดัดตน การนวดผ่อนคลาย การกินอาหารปลอดภัยให้สมดุลตามความเหมาะสมตามธาตุเจ้าเรือน และรู้ทันสภาวะทางอารมณ์ การพัฒนาปัญญาด้วยการเรียนรู้ศิลปะภูมิปัญญาพื้นบ้าน และการศึกษาธรรมชาติ ชมการแสดงพื้นบ้านหมอลำหุ่นกระติบ ศึกษาแหล่งประวัติศาสตร์โบราณคดี
5. การติดตามผล จากการถอดบทเรียนจากประสบการณ์จากการจัดการท่องเที่ยวทั้ง 4 ครั้ง ทำให้โปรแกรมและเส้นทางในการจัดการท่องเที่ยวลงตัวและชุมชนผู้จัดการท่องเที่ยวมีความมั่นใจในการจัดการท่องเที่ยว สามารถออกแบบระบบการจัดการท่องเที่ยวได้ด้วยตนเองในการต้อนรับนักท่องเที่ยว เช่น ด้านอาหาร การนำท่องเที่ยว การบอกเล่าเรื่องราวของพื้นที่ท่องเที่ยว การจัดแสดง การพักโฮมสเตย์ และการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว เป็นต้น และการที่ได้รับการพัฒนาอบรมการทำสื่อสารออนไลน์เพื่อการประชาสัมพันธ์การตลาดท่องเที่ยว ทำให้ชุมชนมีนักท่องเที่ยวติดต่อเพื่อมาท่องเที่ยวตามเส้นทางท่องเที่ยว เชิงสุขภาพ การเป็นพื้นที่ต้อนรับนักศึกษาจากหลายสถาบันฯ มาทำกิจกรรมในพื้นที่ หรือออกไปให้บริการนอกพื้นที่ เช่น การนวดสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีได้รับการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั้งสดและแปรรูป เช่น บ้านโกทามีการสั่งซื้อสินค้า เพิ่มขึ้นปีละ 1-2 ตัน ซึ่งส่งผลชุมชนและสมาชิกในแต่ละบ้านมีการยกระดับรายได้เพิ่มมากขึ้น
ผลการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของชุมชน พบว่ามีความภาคภูมิใจและได้เกิดการเปลี่ยนแปลงตนเองของชาวบ้านและเกิดการพัฒนาความรู้ พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย และจากการประเมินตนเองของชุมชนในการบรรลุผลตามเกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT Thailand standard) มีการพัฒนาในแต่ละเกณฑ์ส่วนใหญ่อยูในระดับปานกลาง ถึงแม้จะยังไม่สามารถพัฒนากลุ่มได้ครอบคลุมในทุกประเด็น แต่ก็เห็นผลในการเปลี่ยนแปลงในการจัดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและสร้างความเข้มแข็งได้ระดับหนึ่ง
2.2 กระบวนการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวแบบบูรณาการ จังหวัดมหาสารคาม
กระบวนการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว มีการดำเนินการตาม 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1. การศึกษาบริบทและสภาพแวดล้อม และการคาดการณ์บริบทและสิ่งที่คาดว่าจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของจังหวัด 2. การร่วมกันร่างแผนการท่องเที่ยวของจังหวัด และรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาสังคมและชุมชน 3. การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น 4. การนำเสนอเข้าสู่แผนการท่องเที่ยวของจังหวัดต่อไป
ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาบริบทของพื้นที่ และการคาดการณ์บริบทและสิ่งที่คาดว่าจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของจังหวัด
บริบทของพื้นที่ จังหวัดมหาสารคามถือเป็นดินแดนสะดืออีสาน มีสถานการศึกษา มากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน มีนิสิตนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยมากกว่า 81,990 คน สภาพกายภาพเป็นที่ราบลุ่มมีแม่น้ำชีไหลผ่าน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร ทำนา มันสำปะหลัง อ้อย ประชากรส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำและยากจน การผลิตพืชเกษตรส่วนใหญ่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน GAP และมีการผลิตที่ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ ด้านการพัฒนาของจังหวัด นอกจากได้รับการส่งเสริมให้เป็น 1 ใน 14 จังหวัดของประเทศที่มีการพัฒนาเป็นคลัสเตอร์กลุ่มผู้ผลิตสมุนไพร จังหวัดมหาสารคามเคยได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ สู่การพัฒนาชุมชน "Learning City towards Community Development" ที่มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่โดดเด่นในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและประเพณี (การท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย, 2557) สถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัด ปี 2563 มีนักท่องเที่ยว 452,503 คน มีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 607 ล้านบาท (ปี 2562) ประเด็นที่เป็นปัญหาของพื้นที่หลัก ๆ คือ ปัญหาความยากจน คนมีรายได้ค่อนข้างต่ำ โดยรายได้ผลิตภัณฑ์ต่อหัวของจังหวัดอยู่ลำดับที่ 63 จากทั้งหมด 77 จังหวัด (แผนพัฒนาจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. 2566-2570)
การคาดการณ์บริบทภายนอกและสิ่งที่คาดว่าจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของจังหวัด จากรายงานวิสัยทัศน์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ.2579 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หลังวิกฤติเศรษฐกิจโควิด 19 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางจากต่างประทศและภายในประเทศมากขึ้น มีการกำหนดวิสัยทัศน์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ.2579 โดยมีการส่งเสริมความมั่นคง ยั่งยืน การวางตำแหน่งการท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มรายได้และกระจายตัวสู่ประชาชน เน้นการเชิดชูอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทย ประเด็นยุทธศาสตร์หลัก คือ การยกระดับสินค้าและบริการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบุคลากรและการมีส่วนร่วมของประชาชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การพัฒนาการบริหารจัดการท่องเที่ยว ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่าแนวโน้มพฤติกรรมการท่องเที่ยวจะเปลี่ยนไป เน้นสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยมากขึ้น เที่ยวแบบเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่ปริมาณคนที่มาก เป็นการเที่ยวระยะใกล้มากขึ้น นิยมเดินทางด้วยตนเอง และให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มความสะดวกสบาย
สำหรับจังหวัดมหาสารคามคาดการณ์ว่าสถานการณ์เชิงการปรับเปลี่ยนรูปแบบกลุ่ม
นักท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกับของประเทศ ได้กำหนดพันธกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวคือ ส่งเสริมการนำภูมิปัญญา มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า บริการ การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (แผนพัฒนาจังหวัด พ.ศ. 2566-2570) และเมื่อวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่าถึงแม้ว่าจะมีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวจะหลากหลาย ยังขับเคลื่อนไปในหลากหลายมิติ ยังขาดการ บูรณาการเพื่อเป้าหมายด้านการท่องเที่ยว (สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมหาสารคาม, 2558)
ขั้นตอนที่ 2 การร่วมกันร่างแผนการท่องเที่ยวของจังหวัด และรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาสังคมและชุมชน
การประเมินสภาพปัญหา ศักยภาพ และความต้องการอย่างมีส่วนร่วม
2.1 ด้านศักยภาพและจุดแข็ง ในการจัดการท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคามต้นทุนพื้นที่หลายด้าน ดังนี้
1) ต้นทุนคนและประสบการณ์ การจัดการท่องเที่ยว ของภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคเอกชน สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม สภาหอการค้า สมาคม มีการจัดการท่องเที่ยวที่หลากหลายรูปแบบ การจัดทำถนนคนเดิน การจัดเทศกาลหุ่นฟางยักษ์ หมอลำหุ่นกระติบฯ แต่ไม่มีความต่อเนื่อง และมีกลุ่ม YEC(Young Entrepreneur chamber of commerce) ที่เป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ ชมรมจิตอาสาพัฒนาแก่งเลิงจาน หอการค้าจังหวัด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม สมาคมส่งเสริมผ้าไทยจังหวัดมหาสารคามฯ แต่ยังไม่มีการนำต้นทุนสามารถนำศักยภาพต่าง ๆ มาร่วมกันออกแบบการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัด ทำให้ภาคการท่องเที่ยวยังไม่มีความโดดเด่นมากนัก
2) ต้นทุนด้านทรัพยากรสมุนไพร มหาสารคามได้เป็นจังหวัดที่นโยบายรัฐยกระดับเมืองสมุนไพร 1 ใน 14 จังหวัดทั่วประเทศ มีการปลูกและพัฒนาสมุนไพรหลากหลายส่งขายในจังหวัด
3) ต้นทุนกายภาพ จากจุดตั้งของจังหวัดมหาสารคามที่มีนิเวศสิ่งแวดล้อมที่ดี เช่น การมีแม่น้ำชีไหลผ่านจังหวัดมหาสารคาม และการมีลำห้วย คลอง เป็นโอกาสในการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำได้ 4. ข้อจำกัดด้านนโยบายการท่องเที่ยว สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด (ทกจ.) มีการวางแผนเพื่อพัฒนาพื้นที่ที่ผ่านมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนแต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างครอบคลุมเนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ
2.2 จุดอ่อน
1. การจัดการท่องเที่ยวยังไม่ถูกออกแบบเชิงระบบ เป็นการจัดเฉพาะครั้ง หรือเป็น Event มากกว่า ไม่มีความต่อเนื่อง
2. มีการบูรณาการความร่วมมือในการจัดการท่องเที่ยวของจังหวัดน้อย
3. นโยบายการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวยังไม่เป็นรูปธรรม
4. มีการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่มีปัญหาด้านการตลาด และการ ไม่มีสินค้าและผลิตภัณฑ์เด่นที่จะมาส่งเสริมการท่องเที่ยว
5. จังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง ถูกมองว่ามีศักยภาพน้อยในด้านการท่องเที่ยว จึงได้รับงบประมาณที่สนับสนุนน้อย
6. ด้านผู้มาเยือน ส่วนใหญ่เดินทางมามาประชุม ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อการมาเที่ยว
7. ข้อจำกัดเชิงระเบียบและกฎหมายของข้าราชการที่จะมาทำการท่องเที่ยว เพื่อหารายได้ เช่น การผลิตสมุนไพรเพื่อการค้า ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาในการบริหารจัดการและการใช้งบประมาณของรัฐ
2.3 โอกาสการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม มีดังนี้
1. กระแสความต้องการอาหารคุณภาพสูงของสังคมโลก
2. รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง
3. การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เป็นโอกาสการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

4. นโยบายการสร้างรถไฟรางคู่ของรัฐบาล ผ่านจังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดนครพนม เป็นโอกาสการพัฒนาเมือง ขยายการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและลดต้นทุนโลจิสติกส์ของจังหวัด
5. นโยบายรัฐให้ความสำคัญกับอาหารปลอดภัย เมืองเกษตรสีเขียว
6. การเชื่อมโยงในระบบโลจิสติกส์ก็มีความพร้อมในการขนส่งการท่องเที่ยวเมืองรองและสายการบิน จะช่วยเจรจาในการลดค่าโดยสารเป็นพิเศษ
7. จังหวัดมหาสารคามเป็นเมืองตักศิลามีนักศึกษาเข้ามาเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างแรงดึงดูดให้ผู้ปกครอง ญาติ ของนักศึกษามาท่องเที่ยวในช่วงต่าง ๆ
8. จังหวัดมหาสารคามมีพิพิธภัณฑ์ที่เป็นพื้นที่สร้างการเรียนรู้จำนวนมากกว่า 20 แห่ง และแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หากมีการปรับปรุงและพัฒนาเป็นทุนทางสังคม วัฒนธรรมและทุนพื้นที่ ที่สามารถสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวให้กับผู้มาเยือนได้
9. ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดในการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยการเน้นคุณค่าของทุนทางวัฒนธรรมมาใช้ในการนำมาจัดการท่องเที่ยว
ขั้นตอนที่ 3 การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น
โดยมีการวิเคราะห์ผลเพื่อพัฒนาเป็นแผนยุทธศาสตร์ ดังนี้
การวิเคราะห์สภาพปัญหา ศักยภาพและความต้องการ โอกาสการพัฒนาการท่องเที่ยวทั้งระดับพื้นที่ และระดับจังหวัด เพื่อมาวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค เพื่อนำมาร่วมกันในการกำหนดแนวทางในการกำหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม โดยใช้เครื่องมือ SWOT Analysis และ TOWs Matrix สามารถวิเคราะห์เป็นวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ดังนี้
วิสัยทัศน์การท่องเที่ยวมหาสารคาม พ.ศ. 2570
“มหาสารคามเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ต้องแวะ มีการเติบโตอย่างสมดุลส่งเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดและกระจายรายได้สู่ประชาชนทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน”

ประเด็นยุทธศาสตร์และกลยุทธ์การท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม ประกอบด้วย
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กลยุทธ์ด้านที่สนับสนุน ได้แก่
1.1 กลยุทธการการฟื้นฟูพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวในภูมิภาค
1.2 การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ เชื่อมโยงเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวและบริการในทั้งผู้ประกอบการทางการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ร้านค้า โฮมสเตย์ โรงแรม บริษัททัวร์ การ และเชื่อมโยงกิจกรรม เช่น กิจกรรมทางวัฒนธรรม กิจกรรมการสัมผัสธรรมชาติ
1.3 การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมีแนวทาง 1.การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวหลักและพัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว 2.การสร้างแหล่งท่องเที่ยวให้มีจุดเด่น Landmark 3. การส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาเรียนรู้ที่หลากหลาย และเชื่อมโยงกิจกรรม เช่น กิจกรรมทางวัฒนธรรม กิจกรรมการสัมผัสธรรมชาติ 4.การส่งเสริมเทศกาลประจำถิ่นเพื่อการท่องเที่ยว
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาและยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐาน กลยุทธ์ 2.1 การพัฒนาและการยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจหมู่บ้านด้วยการปลูกสมุนไพรที่ได้รับมาตรฐานและสร้างมูลค่าเพิ่ม การสนับสนุนการบริโภคอาหารสุขภาพ การเกษตรปลอดภัย กลยุทธ 2.2 การส่งเสริมพัฒนาอัตลักษณ์สินค้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การยกระดับตราสินค้า (Brand) ของการท่องเที่ยว การสร้างสัญลักษณ์เพื่อการจดจำสินค้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 ส่งเสริมการตลาด การสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ ตลาดสมัยใหม่ การใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร ทั้งในด้านข้อมูล สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการท่องเที่ยว โดยมีกลยุทธ์ ดังนี้ 3.1 การพัฒนา ประชาสัมพันธ์หลายช่องทางให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย 3.2 การสื่อสาร/ประชาสัมพันธ์ เช่น การสำรวจข้อมูลทรัพยากรในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อจัดเตรียมการทำสื่อมัลติมีเดีย (Multi-Media) การมีช่องทางออนไลน์ที่สะดวกต่อการเข้าถึงข้อมูล และถูกใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 ส่งเสริมการบริหารจัดการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ โดยมีกลยุทธ์ ดังนี้ 4.1 การส่งเสริมบูรณาการความร่วมมือกับภาคีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องการท่องเที่ยว 4.2 การส่งเสริมการบริหารจัดการธุรกิจและการตลาด การอบรมเชิงการบริหารและออกแบบธุรกิจ Business Model Canvas 2. การสำรวจผลิตภัณฑ์และบริการของชุมชนในพื้นที่เพื่อออกแบบและการจัดทำแผนการตลาดร่วมกับภาคีพันธมิตรท่องเที่ยวเที่ยว 3. การอบรมเชิงปฏิบัติการในการวิเคราะห์ต้นทุนผลิตภัณฑ์ จากการกำหนดราคากำหนดแผนกลยุทธ์การตลาด 4.3 การพัฒนากลไกและมีการบูรณาการในการจัดการท่องเที่ยว มีโครงสร้างคณะทำงาน มีรูปแบบการสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว การการอบรมทักษะจัดตั้งธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การอบรมทักษะด้านการจัดการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในชุมชนให้แก่ผู้นำชุมชนและชุมชนการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยชุมชน ในด้านทักษะในการบริการการท่องเที่ยว การอบรมเพื่อพัฒนาทักษะให้กับผู้ประกอบการ ด้านการจัดการที่พัก ร้านอาหาร และบริการด้านการท่องเที่ยว การสร้างมาตรฐานด้านการบริการส่งเสริมการท่องเที่ยว ห้องน้ำ โรงพยาบาล ความปลอดภัย ที่พัก ร้านอาหาร
ประเด็นยุทธศาสตร์ 6 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับ การท่องเที่ยว การพัฒนาการรองรับกิจกรรมการท่องเที่ยว มีความสะดวก ปลอดภัย การปรับปรุงกฎหมาย การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ น้ำเสีย และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว การจัดทำมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA ในแหล่งท่องเที่ยวและสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยว
จากกระบวนการจัดทำแผน ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม ได้เน้นกระบวนในการจัดทำร่างยุทธศาสตร์บนฐานของการปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของจังหวัดไปพร้อมกัน เกิดผลเชิงการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์บางเรื่อง เช่น ยุทธศาสตร์การพัฒนาและยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐาน ยุทธศาสตร์ส่งเสริมการบริหารจัดการท่องเที่ยวแบบบูรณาการเกิดกลไกการท่องเที่ยว ด้วยความร่วมมือในการทำงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม ภาควิชาการ ยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว โดยชุมชนในการพัฒนาทักษะด้านการจัดการท่องเที่ยว จากการดำเนินการพัฒนายุทธศาสตร์ตั้งแต่ 1.การศึกษาบริบทและสภาพแวดล้อม และการคาดการณ์บริบทและสิ่งที่คาดว่าจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของจังหวัด 2. การร่วมกันร่างแผนการท่องเที่ยวของจังหวัด และรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาสังคมและชุมชน 3. การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น จนได้จัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์การจัดการท่องเที่ยว เพื่อจัดทำเป็นร่างและนำเสนอเข้าสู่แผนการท่องเที่ยวของจังหวัดต่อไป

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.รวบรวมข้อมูล จัดทำคำสั่งคณะทำงานเสนอท่านอธิการบดีลงนาม และประสานการประชุมและร่วมกันวางแผนการทำงานในโครงการฯ ไว้เบื้องต้น
2.ประสานทางโรงเรียนบ้านเขวาสะดืออีสานและชุมชนไว้เบื้องต้น เพื่อจะดำเนินการจัดอบรมมัคคุเทศก์น้อย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

แผนการดำเนินงาน
1. ประชุมดำเนินโครงการ
- มีการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการโดยให้มีการจัดโครงการพัฒนาบุคลากร

2. ติดต่อประสานงานการจัดโครงการ
- มีการติดต่อประสานงาน เพื่อกำหนดวัน เวลา และรูปแบบในการจัดโครงการฯ
- มีการจัดทำหนังสือขอเชิญผู้บริหารและบุคลากรเข้าร่วมโครงการ
- จัดทำหนังสือขอความอนุเคราะห์เข้าศึกษาดูงาน

3. เตรียมงานการจัดโครงการ
- ประสานงานฝ่ายต่างๆในการดำเนินงานรวมไปถึงประสานงานระหว่างวิทยากรที่จะเข้าศึกษาดูงาน
4. จัดงานกิจกรรม/โครงการ
1. วันที่ 7 ธันวาคม 2565 ห้องประชุมชั้น 3 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
2. วันที่ 13-14 มกราคม 2566 ณ โรงแรม เชียงคานฮิลล์ รีสอร์ท อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

รูปแบบการจัดโครงการรายละเอียด ดังนี้
4.1 กิจกรรมบรรยายและถ่ายทอดแผนกลยุทธ์ โดย อาจารย์ทม เกตุวงศา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสานบรรยายเรื่อง “นโยบายและทิศทางการพัฒนาสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
ถ่ายทอดแผนกลยุทธ์ และตัวชี้วัดตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน และวิเคราะห์ความเสี่ยงและการควบคุมภายใน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
4.2 ศึกษาแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมและสถานที่ที่สำคัญในเขตพื้นที่ศึกษาแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมในเขตพื้นที่จังหวัดเลย

กำหนดการศึกษาดูงาน
วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2565
09.30 น. ลงทะเบียน
09.30-12.00 น. ทบทวน วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน แผนกลยุทธ์ และถ่ายทอดแผนกลยุทธ์ ตัวชี้วัดตาม
แผนปฏิบัติราชการ และคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
โดยอาจารย์ทม เกตุวงศา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
12.00 น. -พักรับประทานอาหารกลางวัน-
13.00-14.00 น. วิเคราะห์ความเสี่ยงและการควบคุมภายใน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
14.00-16.00 น. ผู้บริหารและหัวหน้ากลุ่มงานนำเสนอแผนการดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
- อาจารย์ ดร.อภิราดี จันทร์แสง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์
- นางนันทพัทธ์ เชิญกลาง หัวหน้ากลุ่มงานบริหาร
- นายณรงค์ศักดิ์ ราวะรินทร์ หัวหน้ากลุ่มงานบริการวิชาการและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
16.30 น. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้บริหารและบุคลากร/ปิดการประชุม

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2566
06.00 น. พร้อมกัน ณ จุดรับ หน้าอาคารสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
06.15-10.00 น. เดินทางมุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย (รับประทานอาหารเช้าบนรถ)
11.00-12.00 น. ศึกษาดูงานพิพิธภัณฑ์เมืองเลย อำเภอเมือง จังหวัดเลย
12.00 น. -พักรับประทานอาหารกลางวัน-
13.00-15.30 น. - ศึกษาดูงานหมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำบ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
- กราบนมัสการพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร และชมวิวเมืองเชียงคานและสาธารณรัฐ
ประชาธิปไตยประชาชนลาว บนสกายวอล์คภูคกงิ้ว
15.30 น. เดินทางถึงโรงแรมเชียงคานฮิลล์ รีสอร์ท อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
15.30-17.00 น. ถ่ายทอดแผนกลยุทธ์ ตัวชี้วัดตามแผนปฏิบัติราชการ และคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และมอบหมายภารกิจในการดำเนินงาน ให้กับบุคลากร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยอาจารย์ทม เกตุวงศา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
17.00 น. เก็บสัมภาระเข้าที่พัก
18.00 น. -รับประทานอาหารเย็น-
19.00 น. ชมวิถีชีวิตชุมชนถนนคนเดิน
20.00 น. พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2566
06.00 - 07.30 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00 น. ออกเดินทางจากโรงแรม
08.30 - 09.00 น. ซื้อของฝาก ณ แก่งคุดคู้
09.30 - 11.00 น. - นมัสการพระพุทธรูปวัดป่าห้วยลาด อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย
- แวะชมสวนเกษตรชุมชน
12.00 น. -พักรับประทานอาหารกลางวัน-
13.00-18.00 น. เดินทางกลับถึงมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยสวัสดิภาพ

*************************************************************
หมายเหตุ : 1. กำหนดการและเวลาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
2. จัดกิจกรรม วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 ณ ห้องประชุมชั้น 3 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มมส.
3. จัดกิจกรรม ในระหว่างวันที่ 13-14 มกราคม 2566 ณ โรงแรมเชียงคานฮิลล์ รีสอร์ท อำเภอเชียงคาน
จังหวัดเลย
4. หน่วยงานจะดูแลเรื่องอาหารผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรทุกมื้อ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 80

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 35000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปเล่มผลการดำเนินโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมผู้รับผิดชอบเพื่อหารือแนวทางการดำเนินการโครงการ ในการจัดทำหลักสูตร เมื่อวันที่ 11/01/66 เวลา 10.00 โดยมีผู้เข้าร่วม สุพิน/เพ็ญประภา/ณรงค์ศักดิ์/นิพล/ภูวดล

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมเพื่อพิจารณาหลักสูตรที่จะดำเนินการในปี2566 โดยมีหลักสูตรจำนวน 5 หลักสูตร และมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบจัดทำรายละเอียดหลักสูตรเพื่อเสนต่อที่ประชุมสถาบันเพื่อพิจารณา

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

วันที่ 9 มกราคม 2566 ได้มีการประชุมพิจารณารับบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิถีทรรศน์ฯ ปีที่ 2 ฉบับที่ 1 และกำหนดผู้ทรงคุณวุฒิในการพิจารณาแต่ละบทความ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณารับบทความเข้าตีพิมพ์ แต่ในเบื้องต้นได้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้ผู้เขียนปรับแก้ก่อนส่งให้ผู้ทรงคุณวุฒิอ่าน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ยกระดับย้อมสีธรรมชาติเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก จังหวัดมหาสารคาม” วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ.2566
ณ สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
รายละเอียดการดำเนินงาน
08:30-09:00 ลงทะเบียน
09:00-09:30 ชี้แจงวัตถุประสงค์ของโครงการ
โดย อาจารย์ทม เกตุวงศา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
09:30-10:00 แนวทางการส่งเสริมผ้าทอมหาสารคาม
โดย นายชูชาติ ราชจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม
และ นายพงษ์ศักดิ์ คณะมะ พัฒนาการจังหวัดมหาสารคาม
10:00-12:00 ปฏิบัติการ “คลี่ห่วงโซ่คุณค่า ย้อมสีธรรมชาติ จังหวัดมหาสารคาม”
13:00-15:00 “เจาะลึก ข้อต่อ คานงัด ผลิตภัณฑ์ และลูกค้า ย้อมสีธรรมชาติ จังหวัดมหาสารคาม”
15:00-16:00 “ขยายผล ต่อยอด เพิ่มคุณค่าและมูลค่า ย้อมสีธรรมชาติ จังหวัดมหาสารคาม”

วิทยากร
- สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
- สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม
- สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 40000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดการประชุมระดมความคิดเห็น เรื่อง ความต้องการตลาดสมัยใหม่เพื่อยกระดับผ้าทอมหาสารคาม ในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2566 ณ ห้องประชุม 1303 ชั้น 3 อาคารวัฒนธรรม คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์
รายละเอียดดังนี้
08:30-09:00 ลงทะเบียน
09:00-09:30 ชี้แจงวัตถุประสงค์การประชุม
โดย อาจารย์ทม เกตุวงศา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
09:30-09:45 แนวทางการส่งเสริมผ้าทอมหาสารคาม
โดย นายชูชาติ ราชจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม
09:45-11:30 ระดมความคิดเห็น เรื่อง ความต้องการตลาดสมัยใหม่เพื่อยกระดับผ้าทอมหาสารคาม
11:30-12:00 สรุปแนวทางการตลาดสมัยใหม่เพื่อยกระดับผ้าทอมหาสารคาม
12:00-13:00 รับประทานอาหารกลางวัน
วิทยากร
- คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ผศ.ดร.ธัญญธร ศรีวิเชียร
ดร.ยุทธชัย เกราะแก้ว
ดร.ศรีรุ่งรัตน์ สุดสมบูรณ์
ดร.กฤตยาวดี เกตุวงศา
ผศ.ดร.ชุติมา เรืองอุตมานันท์
ดร.ศรินทรีย์ อุดชาชน
อาจารย์ณัฏฐ์ ศรีเมืองทอง
- คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
อาจารย์สรัญญา ภักดีสุวรรณ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 40

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 30000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-เสนอขออนุมัติโครงการ มหาไหมเมืองคาม : ผ้าทอมหาสารคาม
ประชุมปรึกษาหารือภายในสถาบันเพื่อเขียนโครงการเสนอของอนุมัติโครงการและงบประมาณในการดำเนินการโครงการ มหาไหมเมืองคาม : ผ้าทอมหาสารคาม
หลักการและเหตุผล
โครงการ “มหาไหมเมืองคาม : ผ้าทอมหาสารคาม ” เป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในจังหวัดมหาสารคามเพื่อขับเคลื่อนการสืบสาน ส่งเสริม และสร้างสรรค์มรดกภูมิปัญญาการทอผ้า ให้เกิดประโยชน์ ต่อชาวมหาสารคามทั้งด้านคุณค่าทางวัฒนธรรมและด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกิด การสร้างงาน สร้างรายได้ ในการต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 รวมทั้ง การส่งผ่านมรดกวัฒนธรรมเพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ลูกหลานชาวมหาสารคาม ในการสืบสานและต่อยอดสู่การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยความร่วมมือกับดีไซเนอร์แฟชั่นเครื่องแต่งกายที่ได้รับรางวัลผลงานระดับโลก คือ คุณพีร์อุมากร วระเศรษฐ์ถาพร เจ้าของแบรนด์แฟชั่น ‘Kai UKAS’ ในการสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นผ้าทอมหาสารคาม แพร่ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการขายทั้งเนื้อหาเรื่องราวของแฟชั่นเครื่องแต่งกายและวัฒนธรรมผ้าทอของจังหวัดมหาสารคามในเวทีแฟชั่นและสื่อออนไลน์
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นเครื่องแต่งกายผ้าทอมหาสารคาม โดยดีไซเนอร์ แบรนด์ KAI UKAS
2. เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายทั้งเนื้อหาเรื่องราวของแฟชั่นเครื่องแต่งกายและวัฒนธรรมผ้าทอของจังหวัดมหาสารคามในเวทีแฟชั่นและสื่อออนไลน์
3. เพื่อส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่นให้เกิดมูลค่าเพิ่มหรือสร้างคุณค่าผลงานด้านศิลปวัฒนธรรมให้สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

-จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการ
จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการ มหาไหมเมืองคาม : ผ้าทอมหาสารคาม และแจ้งผู้รับผิดชอบดำเนินงานแต่ละฝ่ายที่รับผิดชอบ
-ประชุมปรึกษาหารือวงแผนในการดำเนินกิจกรรมโครงการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย
ประชุมปรึกษาหารือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในการจัดกิจกรรมโครงการ ครั้งที่ 1 ณ ห้องประชุมวัฒนธรรมจังหวัด ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม และ ครั้งที่ 2 ห้องประชุม พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
-จัดเตรียมข้อมูลและประสานงานกับฝ่ายต่างๆ และหน่วยงานภาคีเครือข่ายในการจัดกิจกรรมโครงการ
ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในการจัดกิจกรรมโครงการ รายละเอียด พื้นที่ ลำดับขันตอนต่างๆ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 2000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดกิจกรรมโครงการ มหาไหมเมืองคาม : ผ้าทอมหาสารคาม ภายใต้ชื่องาน ภูษาศิลป์ จากท้องถิ่นสู่สากล มหาไหมเมืองคาม ครั้งที่ 2
รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับ จังหวัดมหาสารคาม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน จัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ครบ 3 รอบ วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2566 กิจกรรม ภูษาศิลป์ จากท้องถิ่นสู่สากล มหาไหมเมืองคาม ครั้งที่ 2 โดยมี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีเปิดกรวยดอกไม้บนธูปเทียนแพ และกล่าวราชสดุดีถวายพระพร เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พร้อมด้วย นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ศาสตราจารย์ ดร.อนงค์ฤทธิ์ แข็งแรง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้าร่วมงาน ณ พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม ได้สนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่พระองค์ทรงสนับสนุนให้ชาวไทยเห็นคุณค่าของผ้าไทย เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์สืบสาน รักษา และต่อยอด มรดกภูมิปัญญาให้คงอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทย และก้าวไกลสู่สากล ตลอดจนเป็นการสนองพระดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า สิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา ที่มีพระทัยมุ่งมั่น ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น จากรุ่นสู่รุ่นมิให้สูญหายไปจากแผ่นดินไทย
การจัดงานดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสาน ส่งเสริม และสร้างสรรค์มรดกภูมิปัญญาให้เกิดคุณค่าทางวัฒนธรรม และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อชาวจังหวัดมหาสารคาม ตลอดจนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ลูกหลานชาวจังหวัดมหาสารคามในการสืบสาน รวมทั้งก่อให้เกิดความภาคภูมิใจแก่กลุ่มผู้ประกอบการด้านการทอผ้า และการตัดเย็บ ก่อให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์กับชาวจังหวัดมหาสารคาม อีกทั้งเป็นการขับเคลื่อนและต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมในด้านการสร้างสรรค์อันนำไปสู่การกินดี อยู่ดีในทางมิติวัฒนธรรม
กิจกรรมในงาน ประกอบด้วยนิทรรศการ “ผ้าไหมล้ำเลอค่ามหาสารคาม”, การเดินแบบแฟชั่นชุดผ้าไทยลายผ้าอัตลักษณ์ของจังหวัดมหาสารคาม ทั้ง 13 อำเภอ, ลายขอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ, ผ้าขิด ลายนารีรัตนราชกัญญา, และแฟชั่นผ้าทออีสาน ตลอดจนการออกร้านจัดแสดง
จำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าทอ อาหาร งานฝีมือ และสินค้าของแต่ละหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน วิสาหกิจชุมชน สถาบันการศึกษา ประชาชนทั่วไป และชมการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 58000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-จัดตลาดศิลปะวัฒนธรรมครั้งที่1พร้อมกับโครงการมหาไหมเมืองคาม
-ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับการจัดกิจกรรมในลำดับถัดไป
-วางแผนงานการจัดตลาด

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-รวบรวมข้อมูลจากเอกหสาร งานวิจัยและอื่นๆเพื่อนำมาจัดทำเนื้อหานิทรรศการ
-ขั้นตอนการทำเนื้อหานิทรรศการ
-ขั้นตอนการออกแบบนิทรรศการและสื่อในนิทรรศการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-ขออนุมัติโครงการและงบประมาณ/ ขออนุมัติหลักเกณฑ์การคัดเลือก/ขอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน/จัดทำและส่งหนังสือประชาสัมพันธ์เปิดรับสมัครผู้มีผลงานด้านศิลปวัฒนธรรม
-อยู่ระหว่างการประชาสัมพันธ์เปิดรับสมัครผู้มีผลงาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 60

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2566 ดำเนินการจัดอบรม โครงการบริการวิชาการ "การบูรณาการเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต้นแบบของชุมชนบ้านหม้อ" โดยอ.กุสมา ดังกลาง ร.ร.สาธิต มมส. (ฝ่ายมัธยม) ผู้รับผิดชอบหลัก
มีผู้เข้าอบรม ประกอบด้วย กลุ่มชุมชนบ้านหม้อ นักเรียนและนิสิต วัตถุประสงค์หลักคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จาก 3 ดาว ให้เป็นผลิตภัณฑ์ 5 ดาว (โคมไฟชีวิต) ในการอบรมมีการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการทำเครื่องปั้นดินเผา การแนะนำวัสดุ อุปกรณ์และการประดับตกแต่งด้วยเปลือกหอย
เชอรี่บนเครื่องปั้นดินเผา การประกอบชุดโคมไฟเข้ากับเครื่องปั้นดินเผาและการมอบใบประกาศนียบัตรให้ผู้เข้าอบรม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 40

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 30000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เสนอโครงการขอทุน /ทำสัญญา การรับทุนกับกองส่งเสริมการวิจัยและบริการวิชาการ
-ขออนุมัติโครงการและงบประมาณ ต่อผู้อำนวยการ
-ประชุมคณะทำงานย่อย หาแนวทางในการดำเนินโครงการ
-ประชุมคณะทำงาน คณะ / สถาบัน/สำนัก และกอง รายงานแนวทางการดำเนินงานและหารือความร่วมมือในการจัดงานบุญผะเหวด
-ประชุมคณะทำงาน คณะ/สถาบัน/สำนัก/และกอง กำหนดวันจัดโครงการ 8-10 มีนาคม 2566 ขอความอนุเคราะห์หน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย
-จัดทำกำหนดการและหนังสือแต่งตั้งคณะทำงานเสนอท่านอธิการลงนาม ประสานงานและประชาสัมพันธ์โครงการไปตาม หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย
-ประชุมคณะทำงานของสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบในการดำเนินโครงการ
-จัดเตรียมสถานที่ และวัสดุ อุปกรณ์ในการจัดตกแต่งมณฑลพิธี

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 70

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ขั้นเตรียมการ (ระยะต้นทาง) ในการที่จะดำเนินงานการจัดโครงการดังกล่าว ได้มีการกำหนดแผนงานที่ดำเนินไว้ดังต่อไปนี้
) เขียนข้อเสนอโครงการ
)อนุมัติข้อเสนอโครงการ
) จัดประชุมคณะกรรมการเพื่อทำการศึกษาข้อมูล กำหนดพื้นที่ และหากลุ่มเป้าหมาย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.จัดทำข้อเสนอโครงการ
2.อนุมัติโครงการ
3.ทำสัญญา และเบิกจ่ายงวดที่ 1

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 10000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.จัดทำข้อตกลงโครงการ ประกอบการขอตั้งงบประมาณรายจ่ายเงินรายได้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
2.ปรึกษาคณะกรรมการกำหนดทิศทางการดำเนินงาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

รับลงทะเบียนผ่านระบบ https://rinac.msu.ac.th/course/?pages=page.open.couse&y=2022 และจัดการอบรมตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2565-เดือนกันยายน 2565 จำนวน 7 หลักสูตร

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 40

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 9000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปการประเมินโครงการ จัดทำใบประกาศแบบ อิเลคทรอนิกส์ ส่งให้ผู้เข้าอยรมทางอีเมล์

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 15

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 2000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เสนอหลักสูตรเพื่อพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร บุคลากรสถาบันวิจัยศิลปะฯ ครั้งที่2/2566 ที่ประชุมเห็นชอบ และดำเนินการเพื่อเสนอมหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาต่อไป

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-การดำเนินการเก็บข้อมูลแผนที่ทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด เช่น ผลิตภัณฑ์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ
-บันทึกข้อมูลลงในระบบแผนที่ทางวัฒนธรรม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 120000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 อาจารย์สถิตย์ เจ๊กมา รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการวิชาการและทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน พร้อมด้วยบุคลากร ได้ประชุมติดตามการดำเนินงานร่วมกับคณะกรรมการจัดงาน โครงการฮีตเดือน 5 สรงน้ำพระ สักการบูชา “พระพุทธกันทรวิชัย อภิสมัยธรรมนายก ณ ห้องประชุมชั้น 3 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน โดยมีกำหนดการจัดงานในวันที่ 20 เมษายน 2566 ณ หอพระพุทธกันทรวิชัย อภิสมัยธรรมนายก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ในเมือง รายละเอียดตามลิงค์ https://www.facebook.com/media/set/?vanity=rinac.msu&set=a.626893782816705

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 40

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประสานชุมชนเพื่อลงพื้นที่สำรวจและประเมินศักยภาพทุนชุมชน แล้วจะนำมาวิเคราะห์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนในเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เปิดระบบให้ลงทะเบียนนเข้าอบรม https://Rinac.msu.ac.th/couse

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

นำข้อมูลจากการดำเนินโครงการไปพัฒนาข้อเสนอโครงการในระยะที่ 2 และรายการการดำเนินโครงการไปยังแหล่งทุนเรียบร้อยแล้ว

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 10000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

มีการดำเนินโครงการ ดังนี้
1. วันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ได้ดำเนินการประชุม ครั้งที่ 5/2566 เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนประเด็นบทความและให้ข้อเสนอแนะในการนำเสนอบทความของผู้นำเสนอ
2. ดำเนินการส่งบทความให้กับผู้ทรงคุณวุฒิได้อ่านและตรวจสอบเพื่อให้ข้อเสนอแนะ
3. ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2566 สถาบันฯจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการตีพิมพ์บทความ Dr.Hans มาให้ข้อเสนอแนะ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ได้ดำเนินกิจกรรมโครงการตามแผนการดำเนินงาน ดังนี้
กิจกรรมที่ 2.1 ประชุมทีมคณะทำงาน เพื่อวางแผนการทำงานร่วมกันในการดำเนินงานโครงการดังกล่าวฯ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

กิจกรรมที่ 2.2 ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับชุมชน ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการฯ และเกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยว CBT Thailand ณ ศูนย์การเรียนรู้ ไร่แสนดีเกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม โดยสรุปได้ดังนี้
ทีมคณะวิจัยจะมีการดำเนินงานโครงการในปี 2566 อยู่ 2 โครงการหลัก คือ
1) บริการวิชาการแบบบูรณาการเพื่อสร้างนวัตกรรมและชุมชนต้นแบบสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้โครงการ “การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อเตรียมเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยว CBT Thailand กรณีชุมชนบ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม” โดยมี นางอัจฉรี จันทมูล เป็นหัวหน้าโครงการ
2) โครงการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)
ในแผนงานหลัก เรื่องการยกระดับการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยชุมชน ด้วยแนวคิด BCG และ
โมเดลอารมณ์ดีของจังหวัดมหาสารคามและพื้นที่เชื่อมโยงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ
โดยมีโครงการย่อยอีกจำนวน 2 โครงการ ได้แก่
(1) โครงการย่อยที่ 1 เรื่อง การยกระดับสินค้าและบริการจากศักยภาพของชุมชนสู่การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (ผศ.ดร.ชนัตถา เหลื่อมพลอยแสง เป็นหัวหน้าโครงการ)
(2) โครงการย่อยที่ 2 เรื่อง การยกระดับเส้นทาง BCG Tourism เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยว
คุณภาพของจังหวัดมหาสารคามและพื้นที่เชื่อมโยง (อ.ทม เกตุวงศา เป็นหัวหน้าโครงการ)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 8250

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

กิจกรรมที่ 2.3 การจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อประเมินเตรียมความพร้อมก่อนการเตรียมเข้าสู่มาตรฐานการท่องเที่ยว CBT Thailand ณ ศูนย์การเรียนรู้ไร่แสนดีเกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
นางอัจฉรี จันทมูล เป็นหัวหน้าโครงการ กล่าวสรุปว่า การประเมินเตรียมความพร้อมก่อนการเตรียมเข้าสู่มาตรฐานการท่องเที่ยว CBT จะใช้เกณฑ์ของกรมการท่องเที่ยว มาประเมินตามมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน
6 ด้าน ได้แก่
(1) ด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน
(2) ด้านการจัดการเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตที่ดี
(3) ด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมชุมชน
(4) ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
(5) ด้านคุณภาพการบริการการท่องเที่ยวโดยชุมชน
(6) ด้านการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการด้านการเข้าถึงตลาดและทำงานร่วมกับผู้ประกอบการนำเที่ยวภายนอก

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 10650

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

กิจกรรมที่ 2.4 การอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการสร้างมัคคุเทศก์น้อย/เยาวชนในการให้บริการด้านการท่องเที่ยว ณ โรงเรียนบ้านเขวาสะดืออีสาน ตำบลเหล่า อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม การอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนและเยาวชนในพื้นที่ ได้ฝึกทักษะของการเป็นนักเล่าเรื่องท้องถิ่น ที่จะเกิดความภาคภูมิใจในการได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างความตระหนัก รวมถึงการเป็นผู้ถ่ายทอดคุณค่าหรือความโดดเด่นของชุมชนตนเองให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมได้ หรือสามารถต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองในฐานะของการเป็นนักเล่าเรื่องท้องถิ่น
กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ได้รับเกียรติจาก ท่านศุภชัย ศรีหาใต้ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 3 มาเป็นประธานในพิธี ดร.อัจฉรี จันทมูล หัวหน้าโครงการกล่าวรายงาน และได้รับเกียรติจากวิทยากร อาจารย์ ดร. ภัทรวิทย์ ธีรภัคสิริ ประธานหลักสูตรสาขาวิชาการจัดการท่องเที่ยวและบริการ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และคุณครูวรยุทธ จันทมูล ครูวิทยะฐานะ
ครูชำนาญการพิเศษ จากโรงเรียนผดุงนารี มาร่วมเติมเต็มในกระบวนการสร้างนักเล่าเรื่อง
โดยมีคณะผู้บริหารโรงเรียน คณะครูผู้ควบคุมนักเรียน และนักเรียนจากโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ โรงเรียนศรีโกสุมวิทยามิตรภาพที่ 209 โรงเรียนบ้านหนองกุงวันดีประชาสรรค์ โรงเรียนบ้านดอนกลอยหนองยาง โรงเรียนบ้านแพงหนองเหนือ โรงเรียนบ้านทันดู่เหนือ โรงเรียนบ้านแก้งขิงแคง โรงเรียนบ้านเหล่าหนองแคน โรงเรียนบ้านหมากมายโพธิ์ทอง โรงเรียนบ้านโนนสูงวังขอนจิก โรงเรียนบ้านแท่นโนนหนองคู และเยาวชนจากชุมชนบ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง รวมทั้งสิ้น 122 คน เรียนรู้ / แบ่งปันประสบการณ์

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 15

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 21600

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

กิจกรรมที่ 2.5 การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ/ศึกษาดูงาน เพื่อการยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชน ภายใต้โครงการ
“การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อเตรียมเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยว CBT Thailand กรณีชุมชนบ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม” ณ บ้านกู่กาสิงห์ ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
นางอัจฉรี จันทมูล เป็นหัวหน้าโครงการ ได้นำคณะครู นักเรียนและเยาวชนจากโรงเรียนศรีโกสุมวิทยามิตรภาพที่ 209 โรงเรียนบ้านแพงหนองเหนือ โรงเรียนบ้านดอนกลอยหนองยาง และชุมชนจากบ้านหนองยางอำเภอ
โกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม รวมจำนวนกว่า 20 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้ผ่านการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอด
องค์ความรู้ในการสร้างมัคคุเทศก์น้อย ในการให้บริการด้านการท่องเที่ยว เมื่อวันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2566
ณ โรงเรียนบ้านเขวาสะดืออีสาน ตำบลเหล่า อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม แล้ว ได้ร่วมเดินทางเข้ารับ
การอบรมเชิงปฏิบัติการและฝึกเรียนรู้การเป็นมัคคุเทศก์น้อยในพื้นที่จริง ณ บ้านกู่กาสิงห์ ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
การฝึกปฏิบัติในพื้นที่จริงครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก อาจารย์ ดร.อำคา แสงงาม ประธานสภาวัฒนธรรมตำบล
กู่กาสิงห์ ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด และคณะ มาเป็นวิทยากรอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้ในการยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชน “บ้านกู่กาสิงห์” นอกจากนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากต้นแบบมัคคุเทศก์น้อยจากโรงเรียนบ้านกู่กาสิงห์ ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด มาฝึกปฏิบัติการเป็นมัคคุเทศก์น้อยให้กับคณะครู นักเรียน เยาวชน และชุมชนจากอำเภอโกสุมพิสัย ทำให้ได้รับองค์ความรู้ที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นมัคคุเทศก์น้อย สู่การเป็นนักเล่าเรื่องท้องถิ่น ในการให้บริการด้านการท่องเที่ยวในชุมชนตนเอง
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 15

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 13500

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

กิจกรรมทที่ 2.6 ทดลองจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อประเมินความพร้อมในการเข้าสู่มาตรฐาน CBT Thailand
ณ อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
การดำเนินกิจกรรมดังกล่าว ได้รับเกียรติจากวิทยากรขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) ดร.ประครอง สายจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน คุณวรุวัยดา เด่นยิ่งโยชน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ คุณกรวิทย์ เทพนีรมิตร
ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน และทีมวิจัย ร่วมลงพื้นที่ในกิจกรรมทดลองจัดการท่องเที่ยวฯ
พร้อมกับเรียนรู้ในกิจกรรมฝึกภาคปฏิบัติ – ทำกิจกรรมฐานเรียนรู้จากวิทยากรประจำฐาน ณ ศูนย์เรียนรู้ไร่แสนดีเกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 15

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 13500

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การดำเนินงานตามสัญญาโครงการ โดยเริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน 2566 ถึง 31 มีนาคม 2567) ซึ่งในช่วง 2 เดือนแรก ได้มีการรายงานความก้าวหน้า 2 เดือน (เมษายน – พฤษภาคม พ.ศ.2566)
ในโครงการ ย่อย 2 การยกระดับเส้นทาง BCG Tourism เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพของจังหวัดมหาสารคามและพื้นที่เชื่อมโยง และมีการลงพื้นที่ตามแผนการวิจัย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 6515

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

มีกิจกรรมลงพื้นที่สำรวจและประเมินศักยภาพทุนชุมชน และวิเคราะห์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนในเส้นทาง BCG Tourism ตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model
ในอำเภอแกดำ และอำเภอนาดูน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 3774

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

มีกิจกรรมลงพื้นที่สำรวจและประเมินศักยภาพทุนชุมชน และวิเคราะห์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนในเส้นทาง BCG Tourism ตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model
ในอำเภอกันทรวิชัย และอำเภอโกสุมพิสัย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 2200

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดกิจกรรมทดลองจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อเตรียมประเมินความพร้อมในการเข้าสู่มาตรฐาน CBT Thailand ตามเส้นทางท่องเที่ยว และกิจกรรมฝึกภาคปฏิบัติ – ทำกิจกรรมฐานเรียนรู้จ ณ ศูนย์เรียนรู้ไร่แสนดีเกษตรทฤษฎีใหม่บ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัด Workshop เพื่อระดมความคิดเห็นในระดับชุมชน 12 ชุมชน เพื่อการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยชุมชน มหาสารคาม BCG Happy Model และมีการทดลองประเมินการท่องเที่ยวด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน CBT Thailand และ workshop การประเมินชุมชนท่องเที่ยวด้วยตนเอง ด้วยระบบ CBT Thailand Web Application โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(ดร.ประครอง สายจันทร์) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (คุณรุวัยดา เด่นยิ่งโยชน์)
ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน (คุณกรวิทย์ เทพนีรมิตร)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 34898

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จากการดำเนินงานที่ผ่านมา มีผู้ส่งบทความเพื่อพิจารณาตีพิมพ์และได้รับคัดเลือกให้ตีพิมพ์ไม่เพียงพอตามเกณฑ์ที่กำหนด อีกทั้งวารสารฯ ยังไม่ได้เข้าสู่ฐานข้อมูลตามหลักเกณฑ์การอ้างอิงวารสาร (TCI) จึงทำให้เป็นอุปสรรคในการตีพิมพ์เผยแพร่
จึงยกเลิกการดำเนินโครงการวารสารวิถีทรรศน์ศิลปะและวัฒนธรรม โดยไม่เบิกจ่ายงบประมาณจำนวน 10,000 บาท ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

โครงการการ​พัฒนา​ผลิตภัณฑ์​จักสาน​กระติบ​ข้าว​สู่​มาตรฐาน​สินค้า​โอ​ท็อบ​ บ้านไผ่​ล้อ​ม​การ​อบรม​เชิง​ปฏิบัติ​การ​ การ​พัฒนาทักษะ​การ​ย้อม​สี​ธรรม​ชา​ติ​ เส้น​ตอก​สําหรับงาน​แปรรูป​ผลิต​ภัณฑ​์ ​การ​อบรม​เชิง​ปฏิบัติ​การ​ การ​สาน​และแปรรูป​ผลิตภัณฑ์​กระเป๋า​จักสาน​ไม้​ไผ่ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้1.​เพื่อ​พัฒนา​ต่อย​อด​ผลิตภัณฑ์​บน​ฐาน​องค์ความ​รู์​เดิม
ให็​เป็น​ผลิตภัณฑ์​ใหม่​ ที่​สามารถ​เพิ่ม​คุณค่า​และ​มูลค้า​ให้กับ​สิน​ค้า​ได้
การดำเนินกิจกรรมโครงการ จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 17-19 กรกฎาคม 2566 ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 2 กิจกรรม ประกอบด้วย 1)การ​อบรม​เชิง​ปฏิบัติ​การ​ การ​พัฒนาทักษะ​การ​ย้อม​สี​ธรรม​ชา​ติ​ เส้น​ตอก​สําหรับงาน​แปรรูป​ผลิต​ภัณฑ​์ ในการย้อมสีธรรมชาติครั้งนี้ใช้เส้นตอกจากไม้ไผ่กิมซุง หรือไม้ไผ่ตงลืมแล้ง เพราะมีปล้องที่ยาวกว่าไม้ไผ่บ้านหรือไม้ไผ่สีสุก การอบรมครั้งนี้มีผู้เข้าอบรมจำนวน 25 คน มีการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากร โดยนายกองมี หมื่นแก้ว ประธานกลุ่มจักสานไผภูตะวัน ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ในการย้อมสีธรรมชาติเส้นตอก ในการอบรมได้เรียนรู้กระบวนการนำเปลือกไม้ประดู่มาใช้เป็นวัตถุดิบในการให้สี 20 กิโลกรัม และผสมด้วยเกลือสินเธาว์ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำ 20 ลิตร ต้มไว้ 3 วัน จะได้เส้นตอกเป็นสี แดง 2) การ​อบรม​เชิง​ปฏิบัติ​การ​ การ​สาน​และแปรรูป​ผลิตภัณฑ์​กระเป๋า​จักสาน​ไม้ไผ่ หลังจากได้เส้นตอกที่เกิดจากการย้อมสีธรรมชาติแล้ว ก็นำเส้นตอกมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ในที่นี้จะมี 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กระติบข้าวแบบใหม่ และกระเป๋า 3 รูปแบบ ในขั้นตอนเป็นกระบวนการในการพัฒนาทักษะในการสานลวดลายแบบใหม่ และผลิตภัณฑ์แบบใหม่ที่แตกต่างจากที่ทางกลุ่มเคยทำ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดความชำนาญ และกิจกรรมที่จะต้องดำเนินการต่อไปจะเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการ​อบรม​เชิง​ปฏิบัติ​การ​ การ​พัฒนาผลิตภัณฑ์กระติบ​ข้าว​สู่​มาตร​ฐาน​ ผลิต​ภัณฑ์ OTOP ในเดือนสิงหาคม 2566 และกระบวนการให้คำปรึกษาตามแผนที่วางไว้

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 50000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายภายใน ภายนอกและหน่วยงานต่างประเทศ ในการดำเนินโครงการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ The 3rd International Conference on Foodways: Challenges for the Mekong Region
จัดกิจกรรมในวันที่ 21 สิงหาคม 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีประชุมและนำเสนอผลงานวิจัย ผลงานวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ให้แก่คณาจารย์ นักวิจัย นักวิชาการ นิสิต นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา และผู้สนใจตลอดจนเป็นการรวบรวมองค์ความรู้ให้ผู้สนใจได้นำไปใช้ประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง การประชุมในครั้งนี้มีหน่วยงานที่เข้าร่วมเครือข่ายทั้งภายในและภายนอกและในกลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขง และประเทศที่มีความสนใจ ดังนี้
1. Mahasarakham University, THAILAND
- The Research Institute of Northeastern Art and Culture
- Faculty of Fine-Applied Arts and Cultural Science
- Faculty of Humanities and Social Sciences
- Faculty of Architecture, Urban Design and Creative Arts
- Faculty of Tourism and Hotel Management
- Walai Rukhavej Botanical Research Institute
2. Walailak University
3. Confucius Institute of Mahasarakham University, THAILAND
4. Research Development Institute, Sisaket Rajabhat University, THAILAND
5. Confucius Institute of National University of Laos, Lao PDR
6. Confucius Institute of Souphanouvong University, Lao PDR
7. University of Pittsburgh at Johnstown, U.S.A.
8. National University of Philippines University, Philippines
9. The Faculty of Ethnology and Sociology, Guangxi Minzu University, China
10. National Institute of Education, Cambodia
11. University of Wollongong, Australia
12. Yangon University of Foreign Languages, Myanmar
13. The Faculty of ASEAN Studies, Guangxi Minzu University, China

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 40000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดกิจกรรมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อประเมินเตรียมความพร้อมหลังการเตรียมเข้าสู่มาตรฐานการท่องเที่ยว CBT Thailand”
ณ ศูนย์เรียนรู้ไร่แสนดีเกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านหนองยาง ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 13500

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดทำวีดิทัศน์และเอกสารรายงานฉบับสมบูรณ์

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 19000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

รายงานความก้าวหน้าการดำเนินโครงการ รอบ 2 เดือน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

นำเสนอการดำเนินงาน โครงการวิจัย “การยกระดับธุรกิจชุมชนย้อมสีธรรมชาติจังหวัดมหาสารคามด้วย เทคโนโลยีการสกัดและควบคุมคุณภาพผงสีธรรมชาติ และเครื่องเคลือบสิ่งทอโดยใช้ พลาสมาที่ความดันบรรยากาศ” และร่วมแลกเปลี่ยน-เรียนรู้ และวางแผนการดำเนินงานระยะต่อไป ร่วมกับทรงคุณวุฒิและคณะทำงานจากกรอบการวิจัย Local Enterprises โดยมี รศ.ดร.บัณฑิต อินณวงศ์ ผู้อำนวยการกรอบการวิจัย Local Enterprises รศ.ดร.ประมุข ภระกูลสุขสถิตย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และคณะกรรมการ ในการลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการวิจัย ภายใต้กรอบวิจัย “การพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการในพื้นที่ (Local Enterprises) บนฐานทรัพยากรพื้นถิ่น เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่” ประจำปีงบประมาณ 2566 ณ ห้องประชุม ชั้น 1 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

กิจกรรม การอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีสกัดผงสีธรรมชาติและเทคโนโลยีพลาสมาสิ่งทอที่ความดันบรรยากาศ เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าและสิ่งทอ จังหวัดมหาสารคาม
โดยมีการอบรมให้ความรู้ในหัวข้อ ดังนี้
- "มาทำความรู้จักสีธรรมชาติ และการเตรียมผงสีสำหรับงานย้อมผ้า" โดย ดร.ศิริพร ลาภเกียรติถาวร ผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
- “การใช้พลาสมาปรับปรุงผิวสิ่งทอ" โดย ผศ.ดร.อาทิตย์ ฉิ่งสูงเนิน อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์
- “เทคโนโลยีผ้าไทยยับยั้งแบคทีเรีย และการคัดเลือกสินค้าเป้าหมายสำหรับนำไปยกระดับเป็นผ้ายับยั้งแบคทีเรีย” โดย ดร.ฤทธิไกร ไชยงาม ผู้ช่วยอธิการฝ่ายบริการวิชาการและการพัฒนาที่ยั่งยืน
- “กระตุ้นต่อม ตระหนักรู้สู่การเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรมผ้าทอ” โดย ดร.ยุทธชัย เกราะแก้ว อาจารย์ประจำคณะบัญชีและการจัดการ
และมี Workshop ฐานการเรียนรู้ จำนวน 4 ฐานได้แก่
- Workshop ฐานที่ 1 เรื่อง “อุปกรณ์ขั้นตอนการเตรียมผงสีธรรมชาติ”
- Workshop ฐานที่ 2 เรื่อง “ทดลองพลาสมาเพิ่มการยึดติดสีย้อมสิ่งทอ”
- Workshop ฐานที่ 3 เรื่อง “ทดลองพลาสมาสิ่งทอยับยั้งแบคทีเรีย”
- Workshop ฐานที่ 4 เรื่อง “ยกระดับผู้ประกอบการนวัตกรรมผ้าทอ”
ในการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ พเอคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีความพร้อมและศักยภาพในการการสกัดและควบคุมคุณภาพสำหรับการเตรียมผงสีธรรมชาติ (ระดับชุมชนและระดับ Pilot scale) การเพิ่มการยึดติดสีย้อมของสิ่งทอโดยใช้พลาสมาความดันบรรยากาศ และการเคลือบสิ่งทอยับยั้งแบคทีเรียโดยใช้พลาสมาความดันบรรยากาศ ซึ่งมีกลุ่มทอผ้าในจังหวัดมหาสารคาม สนใจเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 18 กลุ่ม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 1500000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

รายงานความก้าวหน้า
โครงการการสำรวจและสำเนาข้อมูลเอกสารตัวเขียน 4 ภูมิภาค ในฐานะมรดกความทรงจำของชาติและหลักฐานการเรียนรู้หนังสือของบรรพชนไทย
พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
รายชื่อทีมสำรวจเอกสารตัวเขียน 4 ภาค ภาคอีสาน

1.ผศ.ดร.ราชันย์ นิลวรรณาภา สังกัดคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
2.นายณรงค์ศักดิ์ ราวะรินทร์ สังกัด สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
3.นายชวนากร จันนาเวช สังกัด สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
4.นายนิพล สายศรี สังกัด สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
5.นายภูวดล อยู่ปาน สังกัด สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
6.นายวัชระ พิมพ์จันทร์ สังกัด สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
7.นายนัฐพงษ์ ภูภักดี สังกัด สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
8.นายพัชรินทร์ ประทุมชาติ สังกัด สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

กำหนดการ
9 ตุลาคม 2566 มหาสารคาม วัดโพธิ์ชัย บ้านปอพาน ต.ปอพาน อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม สำรวจแล้ว
10 ตุลาคม 2566 ขอนแก่น วัดโพธิ์ บ้านโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น สำรวจแล้ว
11 ตุลาคม 2566 ร้อยเอ็ด วัดศรีจันทร์ บ้านแดง ต.เหนือเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด สำรวจแล้ว
12 ตุลาคม 2566 ยโสธร วัดโพนทัน บ้านโพนทัน ต.โพนทัน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร สำรวจแล้ว

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 30000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน คณะเทคโนโลยี และคณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้การอบรมเชิงปฏิบัติการยกระดับเกษตรกรผู้เลี้ยงกบและผลิตภัณฑ์อาหารวัฒนธรรมพร้อมบริโภคจากลูกอ๊อดและกบปลดระวาง ภายใต้ โครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารวัฒนธรรมพร้อมบริโภคจากลูกอ๊อดและกบปลดระวาง บรรจุภาชนะปิดสนิทสเตอริไลซ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น” สนับสนุนโดย สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) ณ วัดอัมพวัน บ้านดงเย็น ต. ราษฎร์เจริญ อ. พยัคฆภูมิพิสัย จ. มหาสารคาม โดยมีการอบรมให้ความรู้ในหัวข้อ ดังนี้\r\n- การยกระดับสู่มาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี (Good Aquaculture Practice; GAP) โดย นายยงยุทธ สุดมี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง สำนักงานประมงจังหวัดมหาสารคาม\r\n- การประเมินการใช้งานอุปกรณ์ชุดเพาะฟักและชุดกรองน้ำ โดย ผศ.ดร.วิภาวี ไทเมืองพล คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และคณะ\r\n- การพัฒนาผลิตภัณฑ์บรรจุรีทอร์ทเพ้าซ์สเตอริไลซ์ ที่ได้รับการยอมจากผู้บริโภคและการปนเปื้อนจุลินทรีย์ ที่เป็นไปตามมาตรฐานการขอขึ้นทะเบียน อย.โดย ผศ.ดร.อัศวิน อมรสิน คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม\r\n- การพัฒนาธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารวัฒนธรรมพร้อมบริโภคจากลูกอ๊อดและกบปลดระวาง โดย ดร.ยุทธชัย เกราะแก้ว ดร.ศรีรุ่งรัตน์ สุดสมบูรณ์ ดร.กฤตยาวดี เกตุวงศา คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม\r\n- ความร่วมมือและการขับเคลื่อนสู่ Soft Power ด้านอาหารวัฒนธรรม โดย ผศ.ดร.ชูพักตร์ สุทธิสา สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม\r\nมีกิจกรรมการประชันเมนูอาหารวัฒนธรรม 2 เมนู \r\n เมนูที่ 1 ขากบทอดปรุงรส \r\n เมนูที่ 2 กบยัดไส้ย่าง\r\nผู้ร่วมประชัน คือ ตัวแทน 3 หมู่บ้าน (บ้านดงเย็น บ้านสี่เหลี่ยม และบ้านโนนแคน) เพื่อคัดเลือกเมนูเด็ดไปใช้ในการผลิตอาหารวัฒนธรรมบรรจุภาชนะปิดสนิทสเตอริไลซ์\r\n

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 27500

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.ทบทวนวรรณกรรม เอกสาร แนวคิด ทฤษฎี รวมทั้งงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1.1 องค์ความรู้ที่ได้จากการทบทวนวรรณกรรม ประกอบด้วย 1)แนวคิด BCG Tourism
1.2 มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน
1.3 การท่องเที่ยวตามโมเดลอารมณ์ดี มีความสุข (Happy Model)
2.พัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสำรวจศักยภาพของทุนชุมชนในเส้นทาง BCG Tourism (Gain Point, Pain Point, Knowledge Gap, ทุนทรัพยากร ทุนวัฒนธรรม ทุนบุคลากร, COVID-19 Pandemic) 2) เกณฑ์มาตรฐานการ ท่องเที่ยวโดยชุมชน(CBT Thailand standard) 6 ด้าน 3) แนวทางมหาสารคาม Happy Model 4 ประเด็น 4) การจัด Workshop, Focus Group และเวทีระดมความคิดเห็น 5) การสังเกตแบบมีส่วนร่วม 6) การทดลองเส้นทางท่องเที่ยว

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

3.สำรวจและประเมินศักยภาพทุนชุมชน และวิเคราะห์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนในเส้นทาง BCG Tourism ตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model 4 เส้นทาง (อำเภอแกดำ)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 93200

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

3.สำรวจและประเมินศักยภาพทุนชุมชน และวิเคราะห์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนในเส้นทาง BCG Tourism ตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model 4 เส้นทาง (อำเภอแกดำ และอำเภอนาดูน)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

3.สำรวจและประเมินศักยภาพทุนชุมชน และวิเคราะห์มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนในเส้นทาง BCG Tourism ตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model 4 เส้นทาง (อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอโกสุมพิสัย)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

4.จัด Workshop เพื่อระดมความคิดเห็นในระดับพื้นที่ในการออกแบบเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยชุมชนในเส้นทาง BCG Tourism ตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model แยก 4 เส้นทาง ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรการท่องเที่ยวภายใน จังหวัดมหาสารคาม และกลุ่มพื้นที่เป้าหมาย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 118600

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

5.ปฏิบัติการพัฒนาเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนในเส้นทาง BCG Tourism ตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model 4 ประเด็น คือ 5.1 การพัฒนาเนื้อหาเรื่องราวจากฐานอัตลักษณ์ชุมชน โดยวิธีการประชุมเชิงปฏิบัติการ ร่วมกับกลุ่มนักวิจัยและเครือข่ายพันธมิตรการท่องเที่ยว และกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพและกลุ่มเป้าหมาย
5.2 การพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดยวิธีการประชุมและจัดเวทีระดมความคิดเห็น ร่วมกับกลุ่มนักวิจัยและเครือข่ายพันธมิตรการท่องเที่ยว และกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพและกลุ่มเป้าหมาย
5.3 การพัฒนาความเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวและเชื่อมโยงชุมชนกับเครือข่ายในพื้นที่ในการจัดการท่องเที่ยว
5.4 การพัฒนาบุคลากรและผู้ประกอบการในการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 86600

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

6.ประเมินและวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนตามเกณฑ์มาตรฐาน CBT Thailand 6 ด้าน ดังนี้
1) ด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน 2)ด้านการจัดการเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตที่ดี 3)ด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมชุมชน 4)ด้านการจัดการทรัพยากร ธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
5)ด้านคุณภาพการบริการการท่องเที่ยวโดยชุมชน 6)ด้านการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการ โดยวิธีการใช้เครื่องมือการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐาน CBT Thailand ทั้งในเชิงปริมาณและ
เชิงคุณภาพ) กับผู้ประกอบการในการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 95600

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

7.ปฏิบัติการทดลองการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยชุมชนในเส้นทาง BCG Tourism ตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model 1 เส้นทาง พื้นที่อำเภอแกดำ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 55704

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

รายงานความก้าวหน้ารอบ 6 เดือน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

อยู่ระหว่างการจัดทำสัญญากับกองส่งเสริมการวิจัยและบรการวิชาการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

อยู่่ระหว่างการดำเนินการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

อยู่ระหว่างการดำเนินการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ผลิตสื่อวิดีทัศน์ ให้ความรู้เกี่ยวกับ วัฒนธรรมโหราศาสตร์ เผยแพร่ทางช่องยูทูป

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

..การ​อบรม​เชิง​ปฏิบัติ​การ​ การ​พัฒนา\r\nทักษะ​การ​ย้อม​สี​ธรรม​ชา​ติ​ เส้น​ตอก​สําหรับ\r\nงาน​แปรรูป​ผลิต​ภัณฑ​์\r\n

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 50000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

อธิบายรายละเอียด โครงสร้างของตัวหนังตะลุง เพื่อขออนุสิทธิบัตร

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

อยู่ระหว่างดำเนินการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปผลการดำเนินงาน\r\n1.รายละเอียดการดำเนินงาน\r\nบุญผะเหวด หรือบุญเดือนสี่ หรือบุญมหาชาติ เป็นประเพณีงานบุญตามฮีตสิบสองของชาวอีสาน โดยนัยยะคือการให้ตระหนักถึงคุณค่าของการบริจาคทานครั้งยิ่งใหญ่ อันเป็นการสละความเห็นแก่ส่วนตัวเพื่อผลคือประโยชน์สุขอันไพศาลของมวลชนมนุษย์ชาติเป็นสำคัญ ดังนั้นเมื่อถึงเดือน 4 ชาวอีสานจะร่วมกันจัดตกแต่งสถานที่ เตรียมความพร้อมงานเพื่อฟังการเทศน์มหาชาติ ซึ่งถือว่าเป็นงานอันศักดิ์สิทธิ์ มีความเชื่อว่าผู้ใดฟังเทศน์มหาชาติ จบภายในวันเดียว จะได้อานิสงส์ไปเกิดร่วมชาติภพกับพระศรีอริยเมตไตย\r\n มหาวิทยาลัยมหาสารคามในฐานะมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน และมีพันธกิจด้านการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด ในการส่งเสริมและสนับสนุน อนุรักษ์ ฟื้นฟู ปกป้อง งานด้านศิลปวัฒนธรรมให้เกิดความยั่งยืนในชุมชน จึงตระหนักถึงความสำคัญในการร่วมอนุรักษ์และสืบสานประเพณีบุญผะเหวดของชาวอีสาน โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมจากคณะ หน่วยงาน นิสิต และนักเรียนโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตลอดจนภาคี/องค์กรทั้งภายนอกและภายในมหาวิทยาลัยฯ และชุมชนท้องถิ่นโดยรอบ เพื่อร่วมกันจัดงาน ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวด ทั้งในด้านการสืบสานประเพณี และจะเป็นต้นแบบของการจัดกิจกรรมประเพณีโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยกับชุมชนท้องถิ่น อันจะนำไปสู่การพัฒนาเพื่อเป็นประเพณีประจำชุมชนท้องถิ่น และการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนท้องถิ่นในอนาคต\r\n แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันการระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ละลอกใหม่ได้ขยายพื้นที่การแพร่โรคออกเป็นวงกว้างกระจายไปในหลายเขตพื้นที่ จึงส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมโครงการตามแผนงานที่วางไว้ ต้องปรับรูปแบบวิธีการให้เหมาะสม และปฏิบัติตามมาตรการการเฝ้าระวังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด\r\n ดังนั้น เพื่อให้คณาจารย์ บุคลากร นิสิต นักเรียน ภาคีเครือข่าย และประชาชนในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เกิดการอนุรักษ์สืบสานประเพณีบุญเดือน 4 ของชาวอีสาน และสอดคล้องกับพันธกิจ / ตัวชี้วัดด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมโครงการ “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวดวิถีใหม่ (New Normal) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 2564” ขึ้น ในระหว่างวันที่ 18 - 19 มีนาคม 2564 ณ โรงอาหารกลาง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ทั้งนี้ได้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดมหาสารคาม อย่างเคร่งครัดอีกด้วย \r\nในวันที่ 18 มีนาคม 2564 เวลา 14.00 น. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดงานประเพณีบุญผะเหวด "ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวดวิถีใหม่ (New Normal) ประจำปี 2564" โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นประธานประกอบพิธีอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นจากน้ำ บริเวณท่าน้ำหน้าคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ จากนั้นอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และนิสิต ร่วมในขบวนพิธีแห่พระอุปคุต แห่ไปยังบริเวณเวทีกลาง บริเวณโรงอาหารกลาง (เดิม) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สมโภชบุญผะเหวด อาราธนาเทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน ตามลำดับ \r\n โดยในปีนี้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดงานประเพณีแบบวีถีใหม่ (New normal) มุ่งเน้นการสืบสานคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นเน้นรูปแบบจัดงานแบบออนไลน์ได้กำหนดให้มีการถ่ายทอดสัญญาณสดผ่านช่องทาง https://live.msu.ac.th/ เพื่อให้บุคลากรและนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตลอดจน ประชาชนทั่วประเทศได้รับชมประเพณีอันงดงาม ร่วมฟังเทศน์คาถาพันและเทศน์แหล่ทำนองอีสาน เรื่องผะเหวดสันดรชาดก (13 กัณฑ์ 1,000 พระคาถา) ผ่านทางออนไลน์ ได้กราบนิมนต์พระนักเทศน์ พระครูมงคลชยากร วัดมงคลสวรรค์ จังหวัดอุบลราชธานี พระอธิการสีนวน ปิยะสีโล วัดห้วยฝ้ายพัฒนา จังหวัดอุบลราชธานี และพระอธิการสายัน วิสารโท วัดห้วยหวาย จังหวัดอุบลราชธานี ฟังเทศน์กัณฑ์มาลัยหมื่น พระครูพิศาลโพธิธรรม เจ้าอาวาสวัดศรีมหาโพธิ์กัณฑ์มาลัยแสน พระครูศรีมหาชยาภิมนฑ์ เจ้าอาวาสวัดปัจฉิมทัศน์ กัณฑ์สังกาส พระครูปลัดรัชกร สุนทรวาที วัดพระธาตุชัยภูมิ คาถาพันบาลี พระอาจารย์สุเมธ สุเมโธ วัดชัยจุมพล และสามเณรธีระภัทร์ มะแสน วัดชัยศรี \r\nวันที่ 19 มีนาคม 2564 เวลา 05.30 น. ณ บริเวณ โรงอาหารกลาง(เดิม) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของการจัดงานบุญผะเหวด มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม นำผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร และนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมพิธีแห่ข้าวพันก้อนในงานประเพณีบุญผะเหวด (ฮีตเดือน 4) ประจำปี 2564 พร้อมรับฟังเทศน์สังกาสและเทศน์คาถาพันบาลี 1,000 พระคาถา โดยได้กราบนิมนต์พระนักเทศน์ พระครูมงคลชยากร วัดมงคลสวรรค์ จังหวัดอุบลราชธานี พระอธิการสีนวน ปิยะสีโล วัดห้วยฝ้ายพัฒนา จังหวัดอุบลราชธานี และพระอธิการสายัน วิสารโท วัดห้วยหวาย จังหวัดอุบลราชธานี \r\n พิธีแห่ข้าวพันก้อน เป็นพิธีกรรมที่สำคัญอีกพิธีหนึ่งในงานบุญผะเหวด หรือบุญมหาชาติ ซึ่งเป็นงานบุญใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการบำเพ็ญมหาทานของพระเวสสันดร ที่จะต้องจัดทำพิธีกรรมต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์จึงจะได้อานิสงส์สูง ไม่ว่าจะเป็นการฟังเทศน์ 1,000 พระคาถา เรื่องราวพระเวสสันดรชาดกทั้ง 13 กัณฑ์ ภายในวันเดียว, การอัญเชิญ “พระอุปคุต” มาประดิษฐานในบริเวณมณฑลพิธี เพื่อช่วยปกปักรักษาพิธีการให้ราบรื่น, การจัดทำมณฑลประรำพิธีให้เป็นประดุจป่าหิมพานต์ ด้วยธูป เทียน ดอกไม้ อย่างละ 1,000 และถวายข้าว 1,000 ก้อน เพื่อบูชา 1,000 พระคาถา นับเป็นงานบุญอันยิ่งใหญ่งดงามและมีพิธีกรรมครบถ้วนตามขนบธรรมเนียมพื้นบ้านอีสาน\r\n ในวันที่ 19 มีนาคม 2564 เวลา 14.00 น. รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมสืบสานฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวดวิถีใหม่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 2564\r\n กิจกรรมภายในงาน ทุกคณะ/หน่วยงาน รวมตัวกัน ณ บริเวณลานหน้าคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ ก่อนจะเคลื่อนขบวนกัณฑ์หลอนเข้ามาภายในพิธี บริเวณโรงอาหารกลาง(เดิม) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของการจัดงานบุญผะเหวด มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จากนั้นได้ถวายกัณฑ์หลอน พร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ ตลอดจนฟังเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ เพื่อทำนุบำรุงและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมและภูมิปัญญาท้องถิ่น และส่งเสริมให้บุคลากร นิสิต และนักเรียน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีท้องถิ่น ประเพณีบุญผะเหวดของชาวอีสานให้คงอยู่\r\n นอกจากนี้ได้มีบริการโรงทาน ที่ทางมหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดขึ้น และคณะ/ หน่วยงานร่วมนำมาสมทบ ซึ่งในปีนี้ให้มีรูปแบบโรงทานที่เน้นแยกภาชนะบรรจุอาหาร ไม่รับประทานร่วมกัน เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รูปแบการจัดงานประเพณีแบบวีถีใหม่ (New normal) มุ่งเน้นการสืบสานคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นเน้นรูปแบบจัดงานแบบออนไลน์ได้กำหนดให้มีการถ่ายทอดสัญญาณสดผ่านช่องทาง https://live.msu.ac.th/\r\n โครงการ : ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวดวิถีใหม่ (New Normal) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 2564 มียอดเงินที่คณะ หน่วยงานและชุมชนรอบมหาวิทยาลัยนำมาร่วมบริจาคในรูปแบบกัณฑ์หลอน เป็นจำนวนเงิน 149,107.50 บาท ได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนเพื่อมอบสมทบหออภิบาลสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลสุทธาเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อีกทั้งถวายปัจจัยพระสงฆ์ประกอบพิธีตลอดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 18-19 มีนาคม 2564 และเป็นปัจจัยกัณฑ์หลอนคืนสู่ชุมชน ที่มาร่วมบุญประเพณีกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชนให้คงอยู่สืบไป\r\n กิจกรรมที่ส่งเสริมองค์ความรู้เกี่ยวกับบุญผะเหวด ได้แก่ การจัดนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับบุญผะเหวด ที่ติดตั้งแสดงไว้บริเวณงาน และจัดทำหนังสือ e-book เรื่อง บุญผะเหวด วิถีใหม่ New Normol ฮีตเดือนสี่ ซึ่งเผยแพร่ทางเว็ปไซด์ https://rinac.msu.ac.th/Ebook/EBook/phawetnewnormal/\r\n\r\n \r\n\r\n\r\n2. การบรรลุตามวัตถุประสงค์โครงการ\r\n จากการดำเนินโครงการดังกล่าว จากวัตถุประสงค์ของโครงการที่ตั้งไว้มีดังต่อไปนี้\r\n 2.1. เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ด้านการทำนุบำรุงและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมขนบ -ธรรมเนียมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม\r\n 2.3 เพื่อส่งเสริมให้คณาจารย์ บุคลากร นิสิต นักเรียน และประชาชนในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ร่วมประเพณีบุญผะเหวดของชาวอีสาน\r\n 2.4. เพื่อเรียนรู้และอนุรักษ์การทำเครื่องฮ้อยเครื่องพันอีสาน และการจัดงานประเพณีบุญผะเหวดของชาวอีสาน \r\n 2.5. เพื่อเป็นการบูรณาการร่วมกับการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการแก่ชุมชน และการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม\r\n 2.6. เพื่อนำปัจจัยสมทบที่ได้รับจากกัณฑ์หลอน ร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งประกอบด้วย \r\n 2.6.1.เพื่อสมทบทุนหอสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลสุทธาเวช \r\n 2.6.2.เพื่อถวายปัจจัยพระประกอบพิธีกรรม\r\n 2.6.3.เพื่อเป็นปัจจัยในการสมทบกัณฑ์หลอนร่วมกับชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา\r\n\r\n\r\n\r\n ผลที่ได้จากโครงการคือ\r\n 1. สนับสนุนการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ด้านการทำนุบำรุงและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมขนบ -ธรรมเนียมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม\r\n 2. ส่งเสริมให้คณาจารย์ บุคลากร นิสิต นักเรียน และประชาชนในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ร่วมประเพณีบุญผะเหวดของชาวอีสาน\r\n 3. ได้เรียนรู้และอนุรักษ์การทำเครื่องฮ้อยเครื่องพันอีสาน และการจัดงานประเพณีบุญผะเหวดของชาวอีสาน \r\n 4. เป็นการบูรณาการร่วมกับการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการแก่ชุมชน และการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม\r\n 5. ได้นำปัจจัยสมทบที่ได้รับจากกัณฑ์หลอน ร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งประกอบด้วย \r\n 5.1.เพื่อสมทบทุนหอสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลสุทธาเวช \r\n 5.2.เพื่อถวายปัจจัยพระประกอบพิธีกรรม\r\n 5.3.เพื่อเป็นปัจจัยในการสมทบกัณฑ์หลอนร่วมกับชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย และทำนุบำรุง\r\n\r\n\r\n5.3 องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากโครงการ / นวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากโครงการ\r\n องค์ความรู้ที่ได้รับจากโครงการ คือแลกเปลี่ยนและศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกันในโครงการ“ ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวด มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 2564” โดยผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการทำเครื่องฮ้อยเครื่องพัน และการจัดงานประเพณีบุญผะเหวด รวมถึงแสดงออกถึงความสมัครสมานสามัคคีระหว่างคณะ/หน่วยงาน ชุมชนและมหาวิทยาลัย นอกเหนือจากนั้นยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ \r\n\r\n\r\n\r\n\r\n\r\n\r\n3. ร้อยละความพึงพอใจ\r\n\r\nตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบประเมิน\r\n\r\n ผู้ตอบแบบประเมินเป็นเพศหญิง (ร้อยละ 80.13) และเพศชาย (ร้อยละ 19.87) โดยผู้เข้าร่วมงานเป็นนักเรียน/นิสิต (ร้อยละ 96.03) ที่สังกัดคณะ/หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย มากที่สุด (ร้อยละ 99.34) ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานรับทราบการจัดงานฯ จาก Website มากที่สุด (ร้อยละ 48.26) รายละเอียดปรากฏในตาราง 1\r\n\r\nตาราง 1 ร้อยละของข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบประเมิน \r\n\r\nรายการ\r\n จำนวน ร้อยละ\r\n1. เพศ \r\n ชาย 30 19.87\r\n หญิง 121 80.13\r\nรวม 151 100.00\r\n2. ตำแหน่ง \r\n บุคลากรมหาวิทยาลัย 3 1.99\r\n นักเรียน/นิสิต 145 96.03\r\n ประชาชนทั่วไป/ผู้สนใจเข้าร่วมงาน 2 1.32\r\n ไม่ระบุ 1 0.66\r\nรวม 151 100.00\r\n3. สังกัด \r\n คณะ/หน่วยงาน 148 98.01\r\n อื่น ๆ 3 1.99\r\nรวม 151 100.00\r\n4. การรับทราบการจัดงาน “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ” ทราบจากแหล่งใด (ตอบได้มากกว่า 1ข้อ) \r\n ป้ายประชาสัมพันธ์ 66 38.37\r\n หนังสือเวียน 6 3.49\r\n Website 83 48.26\r\n อื่น ๆ เช่น การบอกต่อ, เพจมหาวิทยาลัย เป็นต้น 17 9.88\r\nรวม 172 100.00\r\n\r\nตอนที่ 2 ระดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบประเมิน\r\n ผู้ตอบแบบประเมินมีความพึงพอใจเกี่ยวกับการจัดโครงการ “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวดวิถีใหม่” ( New Normal ) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 2564 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.17)\r\n เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ผู้ตอบแบบประเมินมีความพึงพอใจเกี่ยวกับการจัดโครงการ “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวดวิถีใหม่” ( New Normal ) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 25644 อยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยตามความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมงาน ดังนี้\r\n1. ความพึงพอใจโดยภาพรวมต่อการจัดงาน “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวดวิถีใหม่” ( New Normal ) ฟังเทศน์มหาชาติ ” ประจำปี พ.ศ.2564 ในครั้งนี้ ( = 4.31)\r\n2. การมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยมหาสารคามกับชุมชน ( = 4.30)\r\n3. ความเหมาะสมของสถานที่ในการจัดงาน (บริเวณสวนป่าศิลปะและวัฒนธรรม) ( = 4.25)\r\n4. ความเหมาะสมของรูปแบบการจัดกิจกรรมในงาน “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวดวิถีใหม่” ( New Normal ) ( = 4.23)\r\n5. การให้ความร่วมมือ/ร่วมงานของบุคลากรในมหาวิทยาลัย ( = 4.20)\r\n6. การประชาสัมพันธ์การจัดงาน “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวดวิถีใหม่” (New Normal) ( = 4.13)\r\n7. ความเหมาะสมของวัน - เวลา ในการจัดงาน ( = 4.03)\r\n8. ความเหมาะสมของปริมาณอาหาร/โรงทาน และเครื่องดื่ม ( = 3.93)\r\n\r\n\r\n\r\nตาราง 2 ระดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบประเมิน \r\nรายการประเมิน ความพึงพอใจ\r\n \r\nS.D. \r\nร้อยละ\r\n ระดับ\r\nความพึงพอใจ\r\n1. การประชาสัมพันธ์การจัดงาน”ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ” 4.13 0.64 82.60 มาก\r\n2. ความเหมาะสมของสถานที่ในการจัดงาน (บริเวณสวนป่าศิลปะและวัฒนธรรม) 4.25 0.64 85.00 มาก\r\n3. ความเหมาะสมของวัน - เวลา ในการจัดงาน 4.03 0.68 80.60 มาก\r\n4. ความเหมาะสมของรูปแบบการจัดกิจกรรมในงาน “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ 4.23 0.64 84.60 มาก\r\n5. ความเหมาะสมของปริมาณอาหาร/โรงทาน และเครื่องดื่ม 3.93 0.69 78.60 มาก\r\n6. การให้ความร่วมมือ/ร่วมงานของบุคลากรในมหาวิทยาลัย 4.20 0.71 84.00 มาก\r\n7. การมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยมหาสารคามกับชุมชน 4.30 0.66 86.00 มาก\r\n8. ความพึงพอใจโดยภาพรวมต่อการจัดงาน “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวด ฟังเทศน์มหาชาติ ” ประจำปี พ.ศ.2564 ในครั้งนี้ 4.31 0.64 86.20 มาก\r\nรวม 4.17 0.66 83.40 มาก\r\n\r\nตอนที่ 3 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม \r\n ผู้ตอบแบบประเมินได้ให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ดังนี้\r\nตาราง 3 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของผู้ตอบแบบประเมิน\r\nข้อที่ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ความถี่\r\nข้อเสนอแนะเพิ่มเติม\r\n1 สถานที่ในการจัดกิจกรรม ยังมีสถานที่ให้จอดรถไม่เพียงพอ 1\r\n\r\n\r\n\r\n4. อุปสรรค ปัญหา และวิธีแก้ไข\r\n 5.5.1 สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามแผน\r\n 5.5.2 การประสานงานกับชุมชนเข้าร่วมมีเวลากระชั้นชิดเนื่องจากต้องขึ้นอยู่ประกาศสภาวะฉุกเฉินสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 \r\n\r\n\r\nวิธีการแก้ไข\r\n 1. ติดตามข่าวสถานการณ์และปรับรูปแบบการจัดงานให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงสาธารณะสุขกำหนด และปฏิบัติตมอย่างเคร่งครัด\r\n 3. ทำการประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆและทางหอกระจายข่าวของหมู่บ้าน และช่องทางต่างๆ\r\n\r\n5.6 ปัจจัยแห่งความสำเร็จ\r\n \r\n ปัจจัยแห่งความสำเร็จคือ การที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้อนุรักษ์สืบทอดและเรียนรู้ ประเพณีบุญผะเหวด และได้อนุรักษ์และสืบทอดศิลปวัฒนธรรมที่เป็นฮีตสิบสอง คองสิบสี่ ซึ่งเป็นกลไกการขับเคลื่อนให้บรรลุตามวัตถุประสงค์และตามเป้าหมายโครงการ แถมยังเป็นการสร้างให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนเกิดความศรัทธากับผลงานของตนเองที่ได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม โครงการ “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวดวิถีใหม่” ( New Normal ) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 2564 ” \r\n \r\n5.7 ปัจจัยแห่งความล้มเหลว\r\n\r\n สถานการณ์การการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การเข้าร่วมของบุคลากรแต่ละคณะ/หน่วยงาน เกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัย จึงทำให้มีการส่งตัวแทนบุคลากรคณะ หน่วยงานเข้าร่วม ซึ่งอาจทำให้ผู้เข้าร่วมมีจำนวนลดลงเมื่อเทียบกับการจัดงาน “ฮีตเดือน 4 ประเพณีบุญผะเหวด” ในปีที่ผ่าน \r\n5.8 ก้าวต่อไป หรือความต่อเนื่องของการดำเนินโครงการ \r\n\r\n จากผลตอบรับของผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งได้แก่กลุ่มบุคลากร กลุ่มนิสิต และกลุ่มชุมชนที่เข้าร่วม มีความประสงค์ที่จะให้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดโครงการที่เป็นการอนุรักษ์ฟื้นฟูประเพณีศิลปวัฒนธรรมทางด้านบุญฮีตสิบสอง คองสิบสี่ของชาวอีสาน เพื่อให้นิสิตและบุคลากรได้เรียนรู้ โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการเหล่านี้ และอยากให้จัดเป็นประจำทุกๆปี เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยและสิ่งสำคัญคือ การแสดงความถึงความสมัครสมานสามัคคีของมหาวิทยาลัยและชุมชน และการได้เรียนรู้การจัดงานบุญผะเหวดของชาวอีสาน ต่อไป\r\n

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 100000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมโครงการวันสถาปนาสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดกิจกรรมในโครงการวันสถาปนาสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมีกิจกรรมดังต่อไปนี้
- ถวายภัตตาหารเพล เครื่องสังฆทานพร้อมจตุปัจจัย และทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้ที่มีคุณูปการต่อสถาบันสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสานที่ล่วงลับ
-พิธีมอบรางวัลให้แก่บุคลากรสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสานเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 90

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 10000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ลงพื้นที่ประชุมระดมสมองร่วมกับชุมชนและโครงการย่อยที่ 1 โครงการย่อยที่ 2 และภาคีเครือข่ายการท่องเที่ยวเพื่อหาแนวทางการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยชุมชน เส้นทางอำเภอโกสุมพิสัย\r\n

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ลงพื้นที่ประชุมระดมสมองร่วมกับชุมชนและโครงการย่อยที่ 1 โครงการย่อยที่ 2 และภาคีเครือข่ายการท่องเที่ยวเพื่อหาแนวทางการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยชุมชน เส้นทางอำเภอแกดำ เวลา 09.00 – 16.00 น. เพื่อเกิดแนวทางการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยชุมชนภายใต้กรอบแนวคิด BCG and Happy Model ตอบสนองให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่อำเภอแกดำ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมทำความเข้าใจเป้าหมายของโครงการและสร้างความร่วมมือเครือข่ายพันธมิตรการท่องเที่ยว ระหว่างจังหวัด /TEATA เพื่อทำความ เข้าใจและวางแผนงานร่วมกัน ด้านการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยชุมชนและการเชื่อมโยงงานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อก่อตั้ง “เครือข่ายองค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์”
ณ ห้องประชุมวังเลิศ ชั้นที่ 1 มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดยมีองค์การเข้าร่วมจากรายชื่อเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทั้งหมด 8 องค์กรกลางและ 32 องค์กรย่อย ที่เข้าร่วมเป็นเครือข่ายองค์กร และเป็นสักขีพยาน ประกอบด้วย
1) สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) หรือ TEATA
2) สมาคมท่องเที่ยวและไมซ์จังหวัดขอนแก่น (KKTMA)
3) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.)
4) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ (ATTA)
5) สมาคมโรงแรมไทยหรือ (THA)
6) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA)
7) สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (TICA)
8) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.)
9) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ (สทน.) หรือ (ADT)
10) คณะบริหารธุรกิจและการบัญชีมหาวิทยาลัยขอนแก่น
11) โรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
12) องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)
13) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)
14) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมสกสวและกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว)
- และสมาคมท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค -

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมทีมแผนงานเพื่อร่างแบบสำรวจศึกษาความต้องการของนักท่องเที่ยว กลุ่มเป้าหมาย (นักท่องเที่ยวคุณภาพ) โดยการศึกษาทั้งเชิงปริมาณด้วยแบบสอบถามและเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก ณ ห้องประชุมร้านอาหารจานเงิน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประชุมทำความเข้าใจเป้าหมายของโครงการและสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรการท่องเที่ยวภายในจังหวัดมหาสารคาม (ชุมชน นิสิตคณะการบัญชีและการจัดการ นิสิตคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม YEC สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม) ณ เวทีหอการค้าแฟร์ ลานหน้าห้างเสริมไทย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

มีการดำเนินโครงการร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดทำสัญญา

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-กิจกรรมการอบรมวิธีการทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่นให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏที่ได้รับทุนวิจัยจากโครงการ ธัชภูมิทั้งหมด 12 แห่ง \r\n-เป็นวิทยากรในการฝึกอบรมประวัติศาสตร์ท้องถิ่น\r\n-การค้นหาทุนทางวัฒนธรรม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 90

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 1000000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

19 ธค ได้รับสัญญาเลขที่6707002\r\n22 ธค 2566 กำลังดำเนินการประสานสถาบันขงจื่อมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

รายละเอียดสัญญาโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนินการกิจกรรมเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังเคลียร์โครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 160000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนินการวางแผนกิจกรรม นัดประชุมรอบแรกต้นเดือนมกราคม 2567

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1.ส่งข้อเสนอโครงการ มหาไหมเมืองคาม ผ้าทอมหาสารคาม เพื่อขอรับทุนสนับสนุนโครงการประเภทโครงการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ประจำปีงบประมาณ 2567

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

2.ส่งเอกสารสัญญารับทุนและข้อเสนอโครงการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ประจำปีงบประมาณ 2567

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

บทสรุปโครงการ มหาไหมเมืองคาม : ผ้าทอมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ขอขยายเวลาดำเนินโครงการวิจัย ครั้งที่ 1 ตังแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 -31 มีนาคม 2567 ตามสัญญา ข้อที่ 11 เลขที่ 6615001/2566 หากดำเนินการและจัดทำบทความและจัดแปลภาษาอังกฤษเพื่อตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 60

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 10000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

รายงานความก้าวหน้าครั้งที่ 1 ตามลิงค์ https://drive.google.com/drive/folders/1KjPhIix7WVmol1WQU7ln5NPoQl0tnd0M?fbclid=IwAR3uRObyrpW9F_M4PuHCNiuD3hob5t8TzBOoAab03hNjeHU9b0atG7w4pgs

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 50

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 70000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ปรับโครงการเพื่ออนุมัติและจัดทำสัญญา

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประสานงานผู้ที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

1) สำรวจสืบสานมรดกภมูิปัญญา “มนตราอีสาน” ในเอกสารโบราณจำนวน 5 แหล่งข้อมูล ดังนี้ -วัดกลางอุดมเวทย์ อ.พนมไพร จ. ร้อยเอ็ด -วัดทุ่งสว่าง อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด -วัดสุดารังสรรค์ อ.ทุ่งเขาหลวง จ. ร้อยเอ็ด -วัดเหนือสูงยาง อ.เมืองสรวง จ.รอ้ยเอ็ด -วัดม่วงน้อย อ.โกสุมพิสัย จ. มหาสารคาม 2) ชุดความรู้และนิทรรศการมรดกภูมิปัญญา “มนตราอีสาน” เนื้อหานิทรรศการประเภทของมนต์ต่าง ๆ ดังนี้ 1. เมตตา ค้าขาย 2. สะเดาะ 3. แก้โรค ต่าง ๆ 4. ประสาน (จอด) 5. แสดงฤทธิ์ 6. ป้องกัน 7. ขับไล่ 8.คาถาพิเศษอื่น ๆ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 100000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปผู้บริหาร

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ประสานงานกับสถาบันขงจื่อและประชุมหารือกับผู้เกี่ยวข้อง

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

รายงานผลการดำเนินโครงการฯต่อผู้บริหาร

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 10

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ลงพื้นที่ Workshop สาธิตการใช้เครื่องพลาสมา และ เก็บข้อมูลการตลาด ณ กลุ่มทอผ้าไหมสีธรรมชาติ บ้านโคกล่าม หมู่ 10 ตำบลหนองบัว อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย และกลุ่มทอผ้าไหมบ้านขามเรียง ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ลงพื้นที่ workshop เครื่องพลาสมา และ เก็บข้อมูลการตลาด ช่องทางการขาย ณ กลุ่มตัดเย็บบ้านท่าตูม ตำบลท่าตูม อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

กิจกรรม workshop การสาธิตกระบวนการพลาสมาสิ่งทอ และ Anti-bacteria กับผู้ประกอบผ้าไหม และ กลุ่มผู้ใช้ผ้าไหม เพื่อเพิ่มช่องทางการขยายการตลาดของกลุ่มผ้าทอในโครงการฯ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ลงพื้นที่ Workshop การทดลองการสกัดสีผงจากผลมะเกลือ ณ ชุมชนบ้านโคกล่าม หมู่ที่ 10 ตำบล หนองบัว อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดทำเอกสารสัญญาขอรับทุนและข้อเสนอโครงการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ประจำปีงบประมาณ 2567 ส่งกองส่งเสริมการวิจัยและบริการวิชาการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน คณะเทคโนโลยี และคณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้การอบรมเชิงปฏิบัติการยกระดับเกษตรกรผู้เลี้ยงกบและผลิตภัณฑ์อาหารวัฒนธรรมพร้อมบริโภคจากลูกอ๊อดและกบปลดระวาง ภายใต้ โครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารวัฒนธรรมพร้อมบริโภคจากลูกอ๊อดและกบปลดระวาง บรรจุภาชนะปิดสนิทสเตอริไลซ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น” สนับสนุนโดย สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) ณ วัดอัมพวัน บ้านดงเย็น ต. ราษฎร์เจริญ อ. พยัคฆภูมิพิสัย จ. มหาสารคาม โดยมีการอบรมให้ความรู้ในหัวข้อ ดังนี้\r\n- การยกระดับสู่มาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี (Good Aquaculture Practice; GAP) โดย นายยงยุทธ สุดมี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง สำนักงานประมงจังหวัดมหาสารคาม\r\n- การประเมินการใช้งานอุปกรณ์ชุดเพาะฟักและชุดกรองน้ำ โดย ผศ.ดร.วิภาวี ไทเมืองพล คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และคณะ\r\n- การพัฒนาผลิตภัณฑ์บรรจุรีทอร์ทเพ้าซ์สเตอริไลซ์ ที่ได้รับการยอมจากผู้บริโภคและการปนเปื้อนจุลินทรีย์ ที่เป็นไปตามมาตรฐานการขอขึ้นทะเบียน อย.โดย ผศ.ดร.อัศวิน อมรสิน คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม\r\n- การพัฒนาธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารวัฒนธรรมพร้อมบริโภคจากลูกอ๊อดและกบปลดระวาง โดย ดร.ยุทธชัย เกราะแก้ว ดร.ศรีรุ่งรัตน์ สุดสมบูรณ์ ดร.กฤตยาวดี เกตุวงศา คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม\r\n- ความร่วมมือและการขับเคลื่อนสู่ Soft Power ด้านอาหารวัฒนธรรม โดย ผศ.ดร.ชูพักตร์ สุทธิสา สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม\r\nมีกิจกรรมการประชันเมนูอาหารวัฒนธรรม 2 เมนู \r\n เมนูที่ 1 ขากบทอดปรุงรส \r\n เมนูที่ 2 กบยัดไส้ย่าง\r\nผู้ร่วมประชัน คือ ตัวแทน 3 หมู่บ้าน (บ้านดงเย็น บ้านสี่เหลี่ยม และบ้านโนนแคน) เพื่อคัดเลือกเมนูเด็ดไปใช้ในการผลิตอาหารวัฒนธรรมบรรจุภาชนะปิดสนิทสเตอริไลซ์\r\n

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 27500

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดทำ(ร่าง) แผนผังตัวอย่างนิทรรศการชั้น 3 ---โครงการยกระดับพิพิธภัณฑ์เอกสารโบราณในกลุ่มประเทศอาเซียนในเขตภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (CLMVT) 2567

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน คณะเทคโนโลยี และคณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้จัดกิจกรรมถอดสูตรเมนูและเรื่องราว อาหารวัฒนธรรมพร้อมบริโภคจากลูกอ๊อดและกบปลดระวาง เพื่อบรรจุภาชนะปิดสนิทสเตอริไลซ์ และติดตามผลการยกระดับสู่มาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีภายใต้ โครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารวัฒนธรรมพร้อมบริโภคจากลูกอ๊อดและกบปลดระวาง บรรจุภาชนะปิดสนิทสเตอริไลซ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น” สนับสนุนโดย สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) ณ วัดอัมพวัน บ้านดงเย็น ต. ราษฎร์เจริญ อ. พยัคฆภูมิพิสัย จ. มหาสารคาม โดยมีการดำเนินกิจกรรม ดังนี้\r\n- ถอดสูตรเมนูและเรื่องราวอาหารวัฒนธรรมพร้อมบริโภคจากลูกอ๊อดและกบปลดระวาง เพื่อบรรจุภาชนะปิดสนิทสเตอริไลซ์เมนูอาหารวัฒนธรรม 3 เมนู ได้แก่ ขากบทอดปรุงรส กบยัดไส้ย่าง และแกงอ่อมลูกอ๊อด\r\n- กระบวนการวิเคราะห์ต้นทุนการผลิต และการสร้างตราสินค้า\r\n- ติดตามผลการยกระดับสู่มาตรฐานการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี (Good Aquaculture Practice; GAP)\r\n

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 12765

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ลงพื้นที่ ณ บ้านดงเย็น ตำบลราษฎร์เจริญ อำเภอ พยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เตรียมรับการตรวจประเมินผลจากผู้ทรงคุณวุฒิ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 5050

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ลงพื้นที่ ณ บ้านดงเย็น ตำบลราษฎร์เจริญ อำเภอ พยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อรับการตรวจประเมินผลจากผู้ทรงคุณวุฒิ ภายใต้แผนงานวิจัย “การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา RAIN for Thailand Food Valley Tung Kula Rong Hai 2566” โดยมี ผศ.ดร.ประจวบ จันทร์หมื่น จากมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เป็นหัวหน้าแผนงาน และมี อาจารย์ทม เกตุวงศา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน เป็นหัวหน้าโครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารวัฒนธรรมพร้อมบริโภคจากลูกอ๊อดและกบปลดระวางบรรจุภาชนะปิดสนิทสเตอริไลซ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น” การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการดำเนินงานโครงการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) ประจำปี 2566

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 26050

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

มีการประสานงานการดำเนินงานโครงการร่วมกับเครือข่ายทั้งภายในภายนอกและหน่วยงานต่างประเทศในการเป็นผู้ร่วมจัดและนำเสนอบทความวิชาการในงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ได้ดำเนินกิจกรรม การแต่งแก้เสียเคราะห์สะเดาะโสกต้อนรับโชคปีศักราชใหม่ ทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 โดยในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น จำนวน 105 คนคิดเป็นบุคลากรในมหาวิทยาลัย ร้อยละ 66.67 ประชาชนผู้สนใจภายนอก ร้อยละ 23.81 นิสิต นักศึกษา ร้อยละ 9.52 โดยมีระดับความพึงพอใจในภาพรวมต่อความเหมาะสมในรูปแบบการจัดกิจกรรม ร้อยละ 98.83 จึงสามารถกล่าวได้ว่า การจัดกิจกรรมโครงการแต่งแก้เสียเคราะห์ฯในครั้งนี้นับเป็นการสืบทอดประเพณีพิธีกรรมอันดีงามของชาวอีสานให้ดำรงอยู่ ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลง และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานราชการตลอดจนการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี...

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

โครงการ "คลินิกโหราศาสตร์" เป็นโครงการ ที่ดำเนินการต่อเนื่อง เป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์พื้นบ้าน และวัฒนธรรมอันเกี่ยวเนื่องด้วยโหราศาสตร์พื้นบ้านแก่ผู้สนใจทั่วไปโดยผ่านสื่อมัลติมีเดีย และเพื่อให้คำปรึกษาปัญหาในด้านการดำรงชีวิตด้วยการบริการตรวจวิเคราะห์ดวงชะตาตามหลักวิชาโหราศาสตร์ ซึ่งผู้ดำเนินโครงการได้ดำเนินการด้านต่างๆตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับความสนใจจากบุคคลทั่วไปอย่างดียิ่งโดยการใช้วิธีการเผยแพร่ด้วยสื่อมัลติมีเดีย ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ทั้งยังได้ทำหน้าที่ให้บริการแนะนำให้คำปรึกษาด้านปัญหาในการดำรงชีวิตด้วยการบริการตรวจวิเคราะห์ดวงชะตาตามหลักวิชาโหราศาสตร์ซึ่งดังกล่าวเป็นหนทางหนึ่งในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ด้านภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ให้ดำรงอยู่ได้ต่อไปอย่างภาคภูมิท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมที่เร่งรัด..

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปรายงานผลการดำเนินงาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนินการจัดทำรายงานตามงวดงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-เขียนบทความ\r\n-วิเคราะห์ผักในเอกสารใบลาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

เบิกจ่ายจัดซื้อวัสดุ และจัดจ้างปรินส์สติกเกอร์

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 36

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 55400

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การดำเนินโครงการอยู่ในขั้นตอนการลงพื้นที่จัดอบรมอาจารย์และนักวิจัยสถาบันราชภัฎทั้งหมด 18 สถาบันได้แก่\r\n1.มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n2.มหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n3.มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n4.มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n5.มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n6.มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n7.มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n8.มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n9.มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n10.มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n11.มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n12.มหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n13.มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n14.มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n15.มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิษถ์(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n16.มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n17.มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย(ดำเนินการลงพื้นที่แล้ว)\r\n18.มหาวิทยาลัยราชภัฎเทพสตรี(ยังไม่ดำเนินการ)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

การดำเนินงานโครงการอยู่ในขั้นตอนการส่งเล่มรายงานงวดสุดท้าย

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ด้วยงานโสตทัศนูปกรณ์ ผลิตสื่อและประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานบริการวิชาการและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ดำเนินการจัดโครงการ การผลิตสื่อสารสนเทศด้านศิลปวัฒนธรรมเพื่อการประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ รายการ “โสเหล่ออนไลน์ ส่องซอดอีสาน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อผลิตรายการ “โสเหล่ออนไลน์ ส่องซอดอีสาน” เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ของหน่วยงาน และเครือข่าย และ เพื่อการประชาสัมพันธ์หน่วยงาน และส่งเสริมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคคลทั่วไป

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

พัฒนาชุมชนให้เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐาน CBT Thailand ในเส้นทาง BCG Tourism ตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model 4 เส้นทาง โดยได้ผลการประเมินและผลวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนตามเกณฑ์มาตรฐาน CBT Thailand 6 ด้าน ในพื้นที่ปฏิบัติการ 4 อำเภอ แล้ว ทีมนักวิจัย ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และชุมชน ได้เข้าศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในพื้นที่ที่มีการบริหารจัดการท่องเที่ยวชุมชนที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ 1.ชุมชนปะโคจังหวัดหนองคาย 2.พิพิธภัณฑ์มีชีวิตจังหวัดบึงกาฬ และ 3.ชุมชนภูป่าเปาะ จังหวัดเลย ในวันที่ 21–23 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญอย่างหนึ่งที่ชุมชนได้นำองค์ความรู้และแนวคิดมาใช้ในการจัดการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อการพัฒนาให้เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐาน CBT Thailand ในเส้นทาง BCG Tourism \r\nตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model \r\n

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัด Focus Group ถอดบทเรียน และจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยชุมชนในเส้นทาง BCG Tourism ตามแนวทางมหาสารคาม Happy Model และพัฒนาสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยทีมวิจัย ได้ประสานคณะทำงาน ร่วมกับภาคีเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม ได้แก่ ผู้ประกอบการ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม และหอการค้า YEC จังหวัดมหาสารคาม และชุมชนในพื้นที่ปฏิบัติการ 4 เส้นทาง เพื่อเข้าร่วม Focus Group ถอดบท เรียน และจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายฯ ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 นอกจากนี้ในวันที่ 24-28 พฤษภาคม 2567 จะมีกิจกรรมร่วมจัดนิทรรศการและการเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในงานมหกรรมสมุนไพรนานาชาติ (International World Trade of Herbal City) กับภาคีภาครัฐ ภาคประชาสังคม ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 20

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปผลและรายงานผลการดำเนินการในกระบวนการการยกระดับเส้นทาง BCG Tourism เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพของจังหวัดมหาสารคามและพื้นที่เชื่อมโยง

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรแม่บ้านเกษตรกรมะค่าทรัพย์ทวี บ้านมะค่า หมู่ที่ 3 ตำบลมะค่า อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ตั้งอยู่ในชุมชนโบราณในสมัยทวาราวดีที่มีอายุกว่า 1300 ปี จึงนับว่าเป็นทุนทางวัฒนธรรมและพื้นที่ ที่มีความสัมพันธ์กับความศรัทธาของผู้คนและความเป็นมงคลอันเกิดจาก ความเชื่อของบรรพบุรุษ และพื้นที่นี้เป็นสังคมเกษตรกรรมโดยเฉพาะการปลูกพืชและสมุนไพรที่ใช้ในในการบริโภคแล้ว ยังเป็นประโยชน์ในรูปแบบอย่างอื่นในการดำรงชีวิต และความเชื่อ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ความสำเร็จของการทำงาน การอยู่ในสังคมด้วยสุขภาวะที่ดีทั้งทางกายและทางใจ \r\n “พระพุทธมงคล” พระยืน เป็นองค์พระที่ชาวบ้านในอำเภอกันทรวิชัยและอำเภออื่น ๆ ตลอดจนในจังหวัดใกล้เคียง ให้ความเลื่อมใสศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้สักการะเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรแม่บ้านเกษตรกรมะค่าทรัพย์ทวี บ้านมะค่า ตำบลมะค่า อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เป็นกลุ่มที่มีการปลูกสมุนไพรเป็นจำนวนมาก มีการผลิตและจำหน่ายให้ชุมชนแบบ ถ้อยทีถ้อยอาศัย ช่วยเหลือเหลือเกื้อกูลกัน ยึดถือประเพณีและวัฒนธรรมของท้องถิ่นเชื่อ จึงได้เกิดแนวคิดในการนำความเชื่อ ความเลื่อมใสศรัทธา ความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ พระยืน มาหลอมรวมกับสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางตำรายาและมีความหมายมงคลเพื่อสร้างและส่งเสริม อัตลักษณ์ของท้องถิ่นและจังหวัดได้ เช่น ใบมะค่า ให้มีสุขภาพดี ให้โชคลาภ ให้คุณค่า ใบมะขาม มีหน้าที่การงานที่มั่นคง การเรียนสำเร็จ ผู้คนเกรงขาม ใบมะยม ให้ความรัก ความนิยมชมชอบ ใบขนุน เศรษฐกิจก้าวหน้า ค้าขายรุ่งเรือง การสนับสนุน ใบเตย รับทรัพย์ รับโชค ใบตะไคร้ เรียกเงิน เรียกทรัพย์ ไพล ป้องกันภยันตรายต่าง ๆ และน้ำมันหอมลีลาวดี เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดมหาสารคาม ให้ความหอมสดชื่น เป็นต้น เมื่อนำมารวมหลอมเป็นถุงเครื่องรางสมุนไพรของบ้านมะค่า ในนามชื่อ มะ ค่ามหาศาล บรรจุในถุงผ้าที่ทำมาจากอังสะ (สไบ) ขององค์พระยืนที่ครบวันบูชาแล้ว หากแต่ปัญหาของผ้าอังสะ มีความบอบบางและอายุการใช้งาน ไม่คงทน เก็บรักษายาก ประกอบกับสมุนไพรมีอายุการใช้งานเพียง 4-5 วัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ มีคุณค่า และประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดีและเก็บถนอมผลิตภัณฑ์ได้ยาวนานขึ้น\r\n คณะวิจัย จึงเห็นว่าควรได้มีการนำนวัตกรรมเครื่องเคลือบพลาสมา ที่ได้พัฒนาเป็นเครื่อง ต้นแบบ โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อาทิตย์ ฉิ่งสูงเนิน จากภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ได้รับสนับสนุนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (อาทิตย์ ฉิ่งสูงเนิน และคณะ, 2564) จากผลงานวิจัยนี้ พบว่า การทรีตพลาสมาและการใช้สารยับยั้งแบคทีเรียลงบนผ้าอังสะ และส่วนประกอบสมุนไพร จะทำให้ผ้าอังสะมีความคงทน ลดกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี และทำให้สมุนไพรมีความหอมยาวนานขึ้น \r\n ดังนั้น หากได้มีการนำเอาเทคโนโลยีกระบวนการเคลือบพลาสมาและเคลือบสารยับยั้งแบคทีเรีย จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรแม่บ้านเกษตรกรมะค่าทรัพย์ทวี อีกทั้งจะเป็นการสร้างการรับรู้และการยอมรับต่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะนำไปสู่การสร้างรายได้และเป็นการยกระดับความสามารถในการจัดการธุรกิจของกลุ่มชุมชนสมุนไพรฯ อีกทั้งยังสอดคล้องกับโมเดล เศรษฐกิจ BCG (BCG Economy Model) ซึ่งผสมผสานของการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green) พร้อมทั้งเป็นแนวทางการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างความรู้สึกร่วมรักษ์โลก ตลอดจนกลุ่มชุมชนสมุนไพรแม่บ้านเกษตรกรมะค่าทรัพย์ทวี ได้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดมหาสารคาม ที่จะเป็นศูนย์กลางของการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าและคุณค่าสูงด้วยภูมิปัญญาและวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นอย่างยั่งยืนต่อไป\r\n1.ประชุมทำความเข้าใจในการดำเนินงานโครงการร่วมกับชุมชน\r\n2.จัดเตรียมวัตถุดิบ / วัสดุที่ใช้ในโครงการ ได้แก่ สมุนไพร เม็ดดินเผา น้ำมันหอมระเหย ผ้าอังสะ พู่จีน เชือกร้อย จักสานรูปเต่ามังกร \r\n3.ทดสอบวัตถุดิบ / วัสดุที่เตรียมไว้ ด้วยกระบวนการรีตพลาสมาและการใช้สารยับยั้งแบคทีเรีย\r\n

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 30

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 75000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ดำเนินโครงการเสร็จสิ้นและส่งรายงานการดำเนินงานเรียบร้อยแล้ว

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 40

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 1045535

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

บทสรุปผู้บริหาร\r\n\r\nโครงการเครื่องรางสมุนไพร มะ ค่ามหาศาล ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีกระบวนการเคลือบพลาสมา และสารยับยั้งแบคทีเรีย เป็นการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรแม่บ้านเกษตรกรมะค่าทรัพย์ทวี บ้านมะค่า หมู่ที่ 3 ตำบลมะค่า อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ที่ชุมชนมีการปลูกสมุนไพรเป็นจำนวนมาก เพื่อทำผลิตภัณฑ์ลูกประคบ ยาดมสมุนไพร สมุนไพรแช่เท้า หมอนสมุนไพร ขี้ผึ้งสมุนไพร ออกจำหน่ายตามงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ด้วยความโดดเด่น ได้มาตรฐาน และผู้ซื้อให้ความสนใจในตัวของสมุนไพร จนได้รับการรับรองมาตรฐาน มผช.ระดับ 4-5 ดาว จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม พระพุทธมงคลหรือหลวงพ่อพระยืน เป็นพระพุทธรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอกันทรวิชัย ประดิษฐานอยู่ใต้ต้นโพธิ์บนเนินดินภายในวัดพุทธมงคล สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปวัฒนธรรมทวาราวดี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 14-16 ได้มีพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากราบไหว้สักการะและบูชาถวายผ้าพาด (สังฆาฏิ) อย่างเนืองแน่น ซึ่งเมื่อผ้าพาด (สังฆาฏิ) ครบการบูชาแล้ว ทางวัดไม่ได้นำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีก ดังนั้น จึงได้มีแนวคิดในการนำความเชื่อ ความเลื่อมใสศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์ในองค์หลวงพ่อพระยืน ผ่านผ้าพาด (สังฆาฏิ) มาหลอมรวมกับสมุนไพรมงคลของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ มะค่าทรัพย์ทวี โดยการนำผ้าพาด (สังฆาฏิ) ที่ทำความสะอาดให้เรียบร้อยแล้ว เข้าสู่นวัตกรรมเทคโนโลยีกระบวนการเคลือบพลาสมา เพื่อลดกลิ่นอับ พร้อมนำสมุนไพรมงคล 5 ชนิด ได้แก่ ใบมะค่า ใบมะขาม ใบมะยม ใบขนุน และไพล พร้อมเม็ดดินเผาธรรมชาติ ผ่านกระบวนการใช้สารเพื่อยับยั้งแบคทีเรีย และทำให้เม็ดดินเผาธรรมชาติดูดซับความหอมของน้ำมันหอมระเหยดอกลีลาวดีและผิวมะกรูดได้ยาวนานขึ้น อีกทั้งได้นำอักขระมงคลมรดกทางอักษรโบราณของวัฒนธรรมอุษาคเนย์ และชาวจังหวัดมหาสารคาม มาสร้างความโดดเด่นของเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาของอำเภอกันทรวิชัย และของชุมชนมะค่า ที่มีต้นมะค่าเกิดเป็นจำนวนมาก ในชื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ “เครื่องรางสมุนไพร มะ ค่ามหาศาล ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีกระบวนการเคลือบพลาสมา และสารยับยั้งแบคทีเรีย” ผลิตภัณฑ์เครื่องรางสมุนไพร มะ ค่ามหาศาล นี้สามารถนำไปเป็นของที่ระลึก เก็บบูชา แขวนหรือวางไว้ในรถ หรือห้องรับแขก หรือห้องนอนได้ จึงเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรแม่บ้านเกษตรกรมะค่าทรัพย์ทวี ที่เป็นการสร้างการรับรู้และการยอมรับต่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่นำไปสู่การสร้างรายได้และเป็นการยกระดับความสามารถในการจัดการธุรกิจของกลุ่มฯ อีกทั้งยังสอดคล้องกับโมเดล เศรษฐกิจ BCG (BCG Economy Model) ซึ่งผสมผสานของการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green) พร้อมทั้งเป็นแนวทางการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างความรู้สึกร่วมรักษ์โลก ตลอดจนกลุ่มชุมชนสมุนไพรฯ ได้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดมหาสารคาม ที่จะเป็นศูนย์กลางของการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าและคุณค่าสูงด้วยภูมิปัญญาและวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นอย่างยั่งยืน\r\n

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 65

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 125000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

ระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน 2567 สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นำโดย นางอัจฉรี จันทมูล นายณรงค์ศักดิ์ ราวะรินทร์ และนางสาวสัตตกมล หมื่นท้าว ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรแม่บ้านเกษตรกรมะค่าทรัพย์ทวี บ้านมะค่า ตำบลมะค่า อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ร่วมจัดแสดงผลงานและนำเสนอ “ผลงานนวัตกรรมเพื่อสังคม” เครื่องรางสมุนไพร มะ ค่ามหาศาล ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีกระบวนการเคลือบพลาสมาและ\r\nสารยับยั้งแบคทีเรีย ณ อาคาร Co-Working Space คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม \r\nผลงานนวัตกรรมที่จัดแสดงและนำเสนอในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โดยมหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นหน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม หรือ SID-ESAN ประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน นักวิจัย หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้พัฒนาต่อยอด “ผลงานนวัตกรรมเพื่อสังคม” \r\nที่สามารถแก้ไขปัญหาหรือพัฒนากิจการให้เกิดความยั่งยืน อีกทั้งเพื่อให้เป็นการเผยแพร่ผลงานนวัตกรรมสู่การพัฒนาแนวคิดต้นแบบหรือโครงการนำร่องเป็นผลงานนวัตกรรมเพื่อสังคมที่สร้างผลกระทบเชิงสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม\r\nกิจกรรมในวันที่ 10 กันยายน 2567 เป็นพิธีเปิดงาน โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.อนงค์ฤทธิ์ แข็งแรง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วิจัยและนวัตกรรม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มณีรัตน์ วงษ์ซิ้ม หัวหน้าหน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคมฯ ได้นำผู้บริหาร บุคลากร หัวหน้าผลงานนวัตกรรม คณะกรรมการ นิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้าร่วมชมนิทรรศการผลงานนวัตกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจาก SID-ESAN รวมจำนวน 12 ผลงาน \r\n

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 50000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์ส่งหน่วยทุน บพข.

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 5

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

จัดกิจกรรมโครงการ ภายใต้ชื่องาน “มหาไหมเมืองคาม วิจิตราอาภรณ์ของแผ่นดิน ภูษาศิลป์จากท้องถิ่นสู่สากล” ครั้งที่ 4 ในวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ขามเรียง ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม มีการดำเนินกิจกรรมดังนี้



งาน “มหาไหมเมืองคามวิจิตราอาภรณ์ของแผ่นดิน ภูษาศิลป์จากท้องถิ่นสู่สากล” ครั้งที่ 4 เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนในจังหวัดมหาสารคาม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ และภาคประชาชนในการสร้างพื้นที่การขับเคลื่อนทุนวัฒนธรรมด้านผ้าทอของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากและสร้างรายได้ในระดับชุมชน โดยฐานทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ ที่สั่งสมและสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ไปสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ อันจะนำไปสู่สำนึกในคุณค่าและความสำคัญและความร่วมมือในการพัฒนาจังหวัดมหาสารคามในอนาคต
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย
1. พิธีเปิดกรวยดอกไม้บนธูปเทียนแพ และกล่าวราชสดุดีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ประธานในพิธี นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน
2. การประกวดออกแบบผลงานสร้างสรรค์แฟชั่นเครื่องแต่งกายด้วยลายผ้าทอจังหวัดมหาสารคาม ในหัวข้อ “ผ้าไทย สไตล์ NEW GEN” ชิงเงินรางวัลพร้อมโล่เกียรติยศ มูลค่ารวมกว่า 50,000 บาท โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจำนวน 10 ผลงาน และมีผลการประกวดดังนี้
รางวัลชนะเลิศ นายปิติพันธ์ สร้างพล ชื่อผลงาน Coolness on the charm
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 นางสาวกีรตยา พิมพิสาร และนางสาวธัญสิริ พลเยี่ยม ชื่อผลงาน ขนมหันตรา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นางสาวกชกร สาระกุมาร ชื่อผลงาน ไฟแห่งมรดก
รางวัลชมเชย จำนวน 7 รางวัล
1. นางสาวณัฏฐณิชา อันทามา ชื่อผลงาน ดาราแห่งพยัคฆภูมิ (Dara Haeng
Phayakkhaphum)
2. นายธนพล ทมกระโทก ชื่อผลงาน The Impressione
3. นายกฤษณ์ คำไสย ชื่อผลงาน Pure Essence (ความบริสุทธิ์ ความเรียบง่ายที่ไม่มีอะไรซับซ้อน)
4. นายปิติพันธ์ สร้างพล ชื่อผลงาน Softness on the bloom
5. นายธาดา ระสีทา ชื่อผลงาน หอมกลิ่นอายเรือนอดีต
6. นายไตรภพ งานสง่า ชื่อผลงาน สิริมงคล
7. นางสาวกชกร สาระกุมาร ชื่อผลงาน Passion of Flowers
3. การเดินแบบแฟชั่น จำนวน 3 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1) แฟชั่นกิตติมศักดิ์ ชุดที่ 2) การประกวด “ผ้าไทย สไตล์ NEW GEN” และ ชุดที่ 3) แฟชั่นผ้าทอจังหวัดมหาสารคาม
4. การออกร้านจำหน่ายสินค้า ผ้าทอ อาหาร งานฝีมือ และผลิตภัณฑ์จากชุมชน โดย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน วิสาหกิจชุมชน สถาบันการศึกษา นิสิต และประชาชน
5. การแสดงดนตรี โดย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์
Workshop
 การทอลายผ้ามหาสารคาม โดย ศูนย์ความเป็นเลิศทางนวัตกรรมไหม มมส
 ผลงานนิสิต โดย คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มมส
 ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม “ทุนทางวัฒนธรรมสู่ Soft Power” โดย สำนักศึกษาทั่วไป มมส
 เส้นทางปลาแดกมหาสารคาม
 “คักแท้แกดำและกันทรวิชัยรุ่งเรือง” โดย บพท.การจัดการทุนทางวัฒนธรรมเพื่อยกระดับ
เศรษฐกิจชุมชนและสำนึกท้องถิ่น
 ตลาดศิลปะและวัฒนธรรม โดย สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 94000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

รายงานผลการดำเนอนโครงการ มหาไหมเมืองคาม ผ้าทอมหาสารคาม ภาคโปสเตอร์ และนำเสนอแบบอินโฟกราฟฟิกส์ โครงการสัมมนาทางวิชาการด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงการบริการวิชาการแก่สังคม ประจำปีงบประมาณ 2567 จัดโดยกองส่งเสริมการวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
มหาไหมเมืองคาม : ผ้าทอมหาสารคาม
นายนิพล สายศรี สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
1. บทคัดย่อ
โครงการมหาไหมเมืองคาม : ผ้าทอมหาสารคาม มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นเครื่องแต่งกายผ้าทอมหาสารคาม โดยดีไซเนอร์ เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายทั้งเนื้อหาเรื่องราวของแฟชั่นเครื่องแต่งกายและวัฒนธรรมผ้าทอของจังหวัดมหาสารคามในเวทีแฟชั่นและสื่อออนไลน์ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ 1)มีผลงานแฟชั่นเครื่องแต่งกายที่ออกแบบและตัดเย็บด้วยผ้าทอมหาสารคาม จำนวน 10 ผลงาน 2)มูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายสินค้าและบริการของกลุ่มทอผ้าผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เข้ารวมกิจกรรมโครงการโดยรวมไม่ต่ำกว่า 260,000 บาท 3)ได้ชุดความรู้ไหมเมืองแม่ 1 ชุดความรู้ 10 เรื่องราวการออกแบบแฟชั่นเครื่องแต่งกายด้วยผ้าทอมหาสารคาม ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก
2. บทนำ
“วัฒนธรรมผ้าทอ” เป็นมรดกภูมิปัญญาที่สั่งสมและสืบทอดกันมาจากบรรพชนจนถึงปัจจุบัน ชาวมหาสารคามยังคงสืบสานวัฒนธรรมผ้าทออย่างต่อเนื่องและแพร่หลาย โดยมีกลุ่มทอผ้ามากกว่า 180 กลุ่มกระจายอยู่ในพื้นที่ 133 ตำบล ส่งผลให้วัฒนธรรมผ้าทอจึงเป็นส่วนหนึ่งในคำขวัญประจำจังหวัดมหาสารคาม
คือ “พุทธมณฑลอีสาน ถิ่นฐานอารยธรรม ผ้าไหมล้ำเลอค่า ตักสิลานคร” โครงการ “มหาไหมเมืองคาม : ผ้าทอมหาสารคาม ” เป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในจังหวัดมหาสารคามเพื่อขับเคลื่อนการสืบสาน ส่งเสริม และสร้างสรรค์มรดกภูมิปัญญาการทอผ้า ให้เกิดประโยชน์ ต่อชาวมหาสารคามทั้งด้านคุณค่าทางวัฒนธรรมและด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกิด การสร้างงาน สร้างรายได้ การส่งผ่านมรดกวัฒนธรรมเพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ลูกหลานชาวมหาสารคาม ในการสืบสานและต่อยอดสู่การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยความร่วมมือกับดีไซเนอร์แฟชั่นเครื่องแต่งกายที่ได้รับรางวัลผลงานระดับโลก ในการสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นผ้าทอมหาสารคาม แพร่ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการขายทั้งเนื้อหาเรื่องราวของแฟชั่นเครื่องแต่งกายและวัฒนธรรมผ้าทอของจังหวัดมหาสารคามในเวทีแฟชั่นและสื่อออนไลน์
3. วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นเครื่องแต่งกายผ้าทอมหาสารคาม โดยดีไซเนอร์ แบรนด์ KAI UKAS
2. เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายทั้งเนื้อหาเรื่องราวของแฟชั่นเครื่องแต่งกายและวัฒนธรรมผ้าทอของจังหวัดมหาสารคามในเวทีแฟชั่นและสื่อออนไลน์
4. กลุ่มเป้าหมาย/ผู้เข้าร่วมโครงการ
มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 279 คน ประกอบด้วย
1. อาจารย์ (คณะทำงานและทีมวิจัย) จำนวน 35 คน
2. นิสิต จำนวน 85 คน
3. ชุมชน 29 กลุ่มชุมชน จำนวน 72 คน
4. ภาคี/องค์กรทั้งภายนอกและภายใน จำนวน 87 คน
5. ระยะเวลาดำเนินโครงการ
ดำเดินงานกิจกรรมโครงการ ในวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2567
6. สถานที่ในการดำเนินโครงการ
จัดกิจกรรมโครงการ ณ พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ขามเรียง ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
7. กิจกรรมการดำเนินงาน
จัดกิจกรรมโครงการ ภายใต้ชื่องาน “มหาไหมเมืองคาม วิจิตราอาภรณ์ของแผ่นดิน ภูษาศิลป์จากท้องถิ่นสู่สากล” ครั้งที่ 4 ในวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ขามเรียง ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม มีการดำเนินกิจกรรมดังนี้



งาน “มหาไหมเมืองคามวิจิตราอาภรณ์ของแผ่นดิน ภูษาศิลป์จากท้องถิ่นสู่สากล” ครั้งที่ 4 เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนในจังหวัดมหาสารคาม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ และภาคประชาชนในการสร้างพื้นที่การขับเคลื่อนทุนวัฒนธรรมด้านผ้าทอของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากและสร้างรายได้ในระดับชุมชน โดยฐานทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ ที่สั่งสมและสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ไปสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ อันจะนำไปสู่สำนึกในคุณค่าและความสำคัญและความร่วมมือในการพัฒนาจังหวัดมหาสารคามในอนาคต
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย
1. พิธีเปิดกรวยดอกไม้บนธูปเทียนแพ และกล่าวราชสดุดีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ประธานในพิธี นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน
2. การประกวดออกแบบผลงานสร้างสรรค์แฟชั่นเครื่องแต่งกายด้วยลายผ้าทอจังหวัดมหาสารคาม ในหัวข้อ “ผ้าไทย สไตล์ NEW GEN” ชิงเงินรางวัลพร้อมโล่เกียรติยศ มูลค่ารวมกว่า 50,000 บาท โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจำนวน 10 ผลงาน และมีผลการประกวดดังนี้
รางวัลชนะเลิศ นายปิติพันธ์ สร้างพล ชื่อผลงาน Coolness on the charm
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 นางสาวกีรตยา พิมพิสาร และนางสาวธัญสิริ พลเยี่ยม ชื่อผลงาน ขนมหันตรา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นางสาวกชกร สาระกุมาร ชื่อผลงาน ไฟแห่งมรดก
รางวัลชมเชย จำนวน 7 รางวัล
1. นางสาวณัฏฐณิชา อันทามา ชื่อผลงาน ดาราแห่งพยัคฆภูมิ (Dara Haeng
Phayakkhaphum)
2. นายธนพล ทมกระโทก ชื่อผลงาน The Impressione
3. นายกฤษณ์ คำไสย ชื่อผลงาน Pure Essence (ความบริสุทธิ์ ความเรียบง่ายที่ไม่มีอะไรซับซ้อน)
4. นายปิติพันธ์ สร้างพล ชื่อผลงาน Softness on the bloom
5. นายธาดา ระสีทา ชื่อผลงาน หอมกลิ่นอายเรือนอดีต
6. นายไตรภพ งานสง่า ชื่อผลงาน สิริมงคล
7. นางสาวกชกร สาระกุมาร ชื่อผลงาน Passion of Flowers
3. การเดินแบบแฟชั่น จำนวน 3 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1) แฟชั่นกิตติมศักดิ์ ชุดที่ 2) การประกวด “ผ้าไทย สไตล์ NEW GEN” และ ชุดที่ 3) แฟชั่นผ้าทอจังหวัดมหาสารคาม
4. การออกร้านจำหน่ายสินค้า ผ้าทอ อาหาร งานฝีมือ และผลิตภัณฑ์จากชุมชน โดย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน วิสาหกิจชุมชน สถาบันการศึกษา นิสิต และประชาชน
5. การแสดงดนตรี โดย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์
Workshop
 การทอลายผ้ามหาสารคาม โดย ศูนย์ความเป็นเลิศทางนวัตกรรมไหม มมส
 ผลงานนิสิต โดย คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มมส
 ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม “ทุนทางวัฒนธรรมสู่ Soft Power” โดย สำนักศึกษาทั่วไป มมส
 เส้นทางปลาแดกมหาสารคาม
 “คักแท้แกดำและกันทรวิชัยรุ่งเรือง” โดย บพท.การจัดการทุนทางวัฒนธรรมเพื่อยกระดับ
เศรษฐกิจชุมชนและสำนึกท้องถิ่น
 ตลาดศิลปะและวัฒนธรรม โดย สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน



8. ผลการดำเนินโครงการ
ความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
เชิงปริมาณ
1. มีผลงานแฟชั่นเครื่องแต่งกายที่ออกแบบและตัดเย็บผ้าทอมหาสารคาม จำนวน 10 ผลงาน
2. มูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายสินค้าและบริการของกลุ่มทอผ้าผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เข้ารวมกิจกรรมโครงการโดยรวมไม่ต่ำกว่า 260,000 บาท
3. มีชุดความรู้ไหมเมืองแม่ 1 ชุดความรู้ 10 เรื่องราวการออกแบบแฟชั่นเครื่องแต่งกายผ้าทอมหาสารคาม
เชิงคุณภาพ
1. ผ้าทอจังหวัดมหาสารคามได้รับการยกระดับสู่เวทีระดับชาติและนานาชาติโดยการดำเนินกิจกรรมโครงการภายใต้ชื่องาน “มหาไหมเมืองคามวิจิตราอาภรณ์ของแผ่นดิน ภูษาศิลป์จากท้องถิ่นสู่สากล” ครั้งที่ 4 ที่เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนในจังหวัดมหาสารคาม มีการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่กิจกรรมโครงการผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสื่อออนไลน์
2. สร้างโอกาสในการต่อยอด ขยายผล ต้นทุนวัฒนธรรมผ้าทอของจังหวัดมหาสารคาม ควบคู่ไปกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ นำไปสู่การสร้างสรรค์แฟชั่นเครื่องแต่งกายด้วยผ้าทอมหาสารคาม สร้างความเข็มแข็งทางเศรษฐกิจรากฐานและสร้างรายได้ในระดับชุมชน จากท้องถิ่นสู่สากล
ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก
โครงการมหาไหมเมืองคาม : ผ้าทอมหาสารคาม ครั้งที่ 4 (พ.ศ. 2567) “วิจิตราอาภรณ์ของแผ่นดิน ภูษาศิลป์จากท้องถิ่นสู่สากล” จึงเปรียบเสมือนการรวมพลังจากชาวมหาสารคามทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาควิชาการ ในการสืบสานสำนึกร่วมในคุณค่าและความสำคัญของมรดกภูมิปัญญาชาวมหาสารคาม และพร้อมส่งต่อสู่คนรุ่นใหม่เพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านคุณค่าและมูลค่าต่อชาวมหาสารคาม

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

-จัดทำรูปเล่มสรุปรายงานผลการดำเนินโครงการ ฉบับสมบูรณ์\r\n-บันทึกข้อความรายงานผลการดำเนินโครงการต่อผู้บริหาร

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สรุปโครงการ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน จัดโครงการประชุมวิชาการะดับนานาชาติ Isan Literature in a Time Capsule ครั้งที่ 4 ภายใต้หัวข้อThe 4th International Conference on Science and Culture:Globalization and Soft Power Challenges for the Mekong Region โดยมีความร่วมมือกับหน่วยงานภายใน ภายนอกและมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ และกลุ่มเครือข่ายในอนุภาคลุ่มน้ำโขง และประเทศจีน ในการจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติและร่วมนำเสนอบทความวิชาการระดับนานาชาติ (ภาคภาษาอังกฤษ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ อาจารย์ นักวิจัย นักวิชาการ นิสิต นักศึกษา และผู้ที่สนใจได้เข้าร่วมนำเสนอบทความทางวิชาการในระดับนานาชาติ โดยจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2567 ณ สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ทั้งระบบออนไลน์และออนไซต์)

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 100

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 60000

รายละเอียดการดำเนินกิจกรรม:

รายงานสรุปผลการดำเนินโครงการฯ

การดำเนินกิจกรรมร้อยละของโครง: 0

งบประมาณที่ใช้ในกิจกรรม: 0